วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หลักการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ เคล็ดลับการดำเนินชีวิตอย่างเต็มภาคภูมิ ตอนที่ 3

หลักการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตอนที่ 3 นี้ เป็นตอนสุดท้ายที่สรุปว่า สัตว์กับคนที่ยิ่งใหญ่นั้น ต้องมีคุณสมบัติ และ กระทำหลายสิ่งอย่าง จึงมีความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ซึ่งบอกได้เลยว่ายาก
           หลักการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ เคล็ดลับ การดำเนินชีวิตอย่างเต็มภาคภูมิ ตอนที่ 1 และ 2 ที่จบไป เป็นเรื่องของสัตว์กับคน ที่มีความรู้ความสามารถอันยิ่งใหญ่ ที่ต้องมีคุณสมบัติเฉพาะตัว หรือ การกระทำต่าง ๆ มากมาย จึงคงความยิ่งใหญ่มาได้ สำหรับ หลักการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตอนที่ 3 นี้ เป็นตอนสุดท้าย ซึ่งเป็นตอนสรุปว่า แม้สัตว์กับคน ที่มีความรู้ความสามารถ กระทำการอันยิ่งใหญ่ จนเป็นที่ประจักษ์ สัตว์กับคนนั้น ต้องมีคุณสมบัติ และ กระทำในสิ่งต่าง ๆ มากมาย จึงจะมีความยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ ซึ่งบอกได้เลยว่า เป็นเรื่องยาก แต่ถ้าคุณดำเนินการตาม หลักการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ในความหมายเฉพาะของผมนั้น คุณจะพบว่า คุณสามารถจะมี การดำเนินชีวิต อยู่ในสังคม ได้อย่างเต็มภาคภูมิ ไม่หลงเหลือความรู้สึกต่ำต้อย ไร้ค่า ทำไม่เป็น ทำไม่ได้ ฯลฯ อีกต่อไป ขอเชิญติดตามชมได้เลยครับ

           จากที่กล่าวมาข้างต้น สัตว์ และมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ตัวอย่างทั้งหมด ได้รับการยกย่องว่า ยิ่งใหญ่จริง แต่การมีชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ดังกล่าว เป็นการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป (เน้นมุมมองของคนอื่น มองไปยังตัวผู้ยิ่งใหญ่ ให้ความยกย่องสรรเสริญ เคารพนับถือต่อสิ่งที่สัตว์ หรือ มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่เหล่านั้นทำ  หรือ ทำสำเร็จ (เทพเจ้ากวนอู กับ มหาตมะ คานธี ถูกฆ่าตาย ก่อนงานจะสำเร็จ แต่ชื่อเสียงความยิ่งใหญ่ ได้มาขณะทยอยทำงานสำเร็จ
          ในช่วงชีวิตที่ผ่านมา มีเหตุการณ์แสดงให้เห็นคุณธรรม หรือ คุณความดีอันยิ่งใหญ่) สิ่งที่สัตว์ หรือมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ทำ หรือทำสำเร็จ ส่วนใหญ่เป็นสิ่งที่ทำได้ยากลำบาก หรือ แทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าผู้ทำไม่มีคุณสมบัติ  และ ความสามารถพิเศษเฉพาะตัวครบถ้วน (สัตว์นักล่า ต้องล่าสัตว์มาเป็นอาหารให้ได้ โดยใช้เพียงร่างกาย เขี้ยวเล็บ พละกำลัง และความสามารถพิเศษ (พญาอินทรีย์ สายตาดี พญาสิงโต ทำงานเป็นทีมดี และ ฉลามขาว ประสาทรับรู้กลิ่นดี) ซึ่งส่วนใหญ่ สัตว์นักล่า จะทำได้ผลดี แต่หากให้มนุษย์ ซึ่งไม่ได้มี ร่างกาย เขี้ยวเล็บ และ พละกำลังอันแข็งแกร่ง แล้วยังไม่มี ความสามารถพิเศษมาช่วยในการล่า ออกล่าด้วยมือเปล่า ลักษณะเดียวกับการล่าของ สัตว์นักล่า คงไม่สามารถล่าหาเหยื่อมาเป็นอาหารได้ และ สำหรับงานของ มนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่ทั้ง 3 ท่าน เทพเจ้ากวนอู ต้องการรวบรวมแผ่นดินจีนให้เป็นปึกแผ่น อัลเบิร์ต ไอน์ไสตน์ ต้องการศึกษาค้นคว้า วิชาคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์อย่างจริงจัง เพื่อพัฒนาให้ก้าวหน้า นำมาใช้เป็นประโยชน์ สำหรับมนุษยชาติ และ มหาตมะ คานธี ต้องการปลดแอกประชาชน จากการกดขี่ของฝ่ายปกครอง ทุก ๆ งาน ยากลำบากแสนเข็ญ หากทั้ง 3 ท่าน ไม่มีคุณสมบัติของ ผู้ยิ่งใหญ่ในตัว (ตามที่กล่าวมาแล้ว คือ ร่างกายจิตใจแข็งแกร่ง สติปัญญาดี มีความมุ่งมั่น อดทน ฯลฯ) จะไม่สามารถทำงานสำเร็จ จนมีชื่อเสียง อันยิ่งใหญ่ได้ คุณสมบัติ ที่มนุษย์จะต้องมี ในการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ตามความหมายทั่วไป กล่าวโดยสรุปมีดังนี้ (รวมเอาคุณสมบัติ สำคัญของสัตว์ และมนุษย์ผู้ยิ่งใหญ่มารวมเข้าด้วยกัน)
          ร่างกายจิตใจแข็งแกร่ง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป ต้องมีร่างกายจิตใจที่แข็งแกร่งอย่างมาก เพื่อสามารถทุ่มเทต่อสู้ กับภารกิจอันยิ่งใหญ่ (งานที่ทำสำเร็จยาก หรือ แทบเป็นไปไม่ได้ ถ้าไม่มีคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ เช่น งานรวบรวมดินแดน, งานศึกษาค้นคว้าวิชาการใหม่ ๆ หรือ งานปลดแอก การกดขี่ของฝ่ายปกครอง ฯลฯ) ภารกิจอันยิ่งใหญ่เหล่านี้ ล้วนต้องทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจแบบสุด ๆ และยืดเยื้อ ใช้เวลานานเป็นปี หรือหลายปี ถ้าร่างกายจิตใจ ไม่แข็งแกร่งสุด ๆ พบเจอปัญหานิดหน่อย ก็สู้ไม่ไหว ท้อแท้หมดกำลัง ไม่ต้องถึงภารกิจระดับชาติหรอก แค่ภารกิจธรรมดา ก็ไม่น่าจะทำอะไร จนสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันได้ (ในส่วนคุณสมบัติของสัตว์ที่มี ร่างกายล่ำสันใหญ่โต เขี้ยวเล็บแหลมคม และ พลังที่แข็งแกร่ง โดยที่มนุษย์ไม่มี ธรรมชาติ ได้มอบสติปัญญาที่ดี ไว้ทดแทนแล้ว)
          สติปัญญาดี สติสัมปชัญญะ ครบถ้วน มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องมีสติปัญญาดี สติสัมปชัญญะครบถ้วน ยิ่งมีสติปัญญา และ สติสัมปชัญญะ ดีขึ้นเท่าไร ก็ยิ่งทำงานที่ยุ่งยากซับซ้อน งานที่ต้องใช้ความคิดมาก ๆ ได้สำเร็จดีขึ้นเท่านั้น สามารถพัฒนาความเจริญให้กับมนุษยชาติ ให้มีความเป็นอยู่สบายขึ้น แก้ไขปัญหาอุปสรรค ที่มีต่อความเป็นอยู่ดี ขึ้นกว่าเดิม ความสำเร็จดังกล่าว จะได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ เป็นรางวัลตอบแทน

          มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และ ความอดทน สูง มนุษย์ที่จะ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องมีความมุ่งมั่นทุ่มเทในการทำงาน งานไม่สำเร็จ จะไม่ยอมเลิกรา และ ต้องมี ความอดทน ต่อสิ่งต่าง ๆ เช่น ความหิวโหย, ความเหนื่อยล้า หรือความยากลำบาก ฯลฯ ได้อย่างดีเยี่ยม

          รัก เคารพนับถือ ให้เกียรติ ภาคภูมิใจในตัวเอง และ พัฒนาตัวเอง อยู่เสมอ มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องรัก เคารพนับถือ ให้เกียรติ ภาคภูมิใจในตัวเอง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จะไม่กล้าทำสิ่งที่ให้ร้าย หรือทำลายตัวเอง มีความเคารพนับถือ ภาคภูมิใจ และรักในเกียรติยศของตน พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ เท่าที่โอกาสจะอำนวย มนุษย์ที่มีคุณสมบัติข้อนี้ ต้องได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่แน่นอน

         มี หลักการ ที่ถูกต้อง และยึดหลัก เหตุผล ในการดำเนินชีวิต มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องมี หลักการ ที่ถูกต้อง และยึด หลักเหตุผล ในการดำรงชีวิตทุกตัวคน สิ่งใดที่ขัดกับ หลักการดำเนินชีวิต และ ไม่สมเหตุสมผลจะไม่ยินยอมโอนอ่อนผ่อนตาม การดำรงตนอย่างไร้ซึ่งหลักยึด หรือ ยอมทิ้งหลักการเพื่อประโยชน์ หรือสิ่งหนึ่งสิ่งใด มนุษย์ผู้นั้น ก็จะเหมือนคนทั่วไป ที่มีอยู่อย่างดาษดื่น ไม่มีทางที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้

          มีความกล้าหาญ มั่นใจในตัวเอง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องมีความกล้าหาญ มั่นใจในการกระทำของตนเองว่า สิ่งที่ทำนั้นดี ถูกต้อง เหมาะสมกับเราแล้ว หากมนุษย์ไม่มีความกล้าหาญในงานที่จะทำ ไม่มั่นใจว่า ตนมีความสามารถทำได้ โอกาสที่จะบุกเบิกทำงานใหม่ ๆ งานที่ท้าทาย หรือ หาจนพบงานที่เหมาะกับตัวตน มีความสนใจ ชอบ ถนัด และมี พรสวรรค์ ที่จะทำจะเป็นไปได้ยาก

          ความเสียสละ ทุ่มเทต่อการทำงานสูง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องเสียสละทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และเวลาในการทำงาน สูงกว่ามนุษย์ทั่วไป เมื่อเสียสละทุ่มเทขนาดนั้น โอกาสประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ย่อมเป็นไปได้ง่าย

          รู้จักตัวตนของตัวเอง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องรู้จักตัวตนของตัวเอง การรู้จักตัวตนของตัวเอง ทำให้เรารู้ว่า เราคือใคร ต้องการอะไร สนใจ ชอบ ถนัด หรือมี พรสวรรค์ ทางด้านไหน การได้ทำในสิ่งที่ตนสนใจ ชอบ ถนัด หรือมี พรสวรรค์ ทำให้มีความอยาก และ กระตือรือร้นที่จะทำ การดำเนินการทั้งหลายทั้งปวง ตามลำดับขั้นจะมีความสุข และ สนุกที่ได้ทำ ผลงานความสำเร็จ อันเต็มไปด้วยคุณภาพ และปริมาณย่อมเกิดขึ้น ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ จะไม่หนีไปไหน

          การยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ไม่พึ่งพิงอาศัยคนอื่น มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไปได้ ต้องยืนหยัดให้ได้ ด้วยตนเองเพียงลำพัง เพราะคนที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพิงใครเท่านั้น ที่จะอยู่รอด อยู่ในโลกอันโหดร้ายนี้ได้ (ที่กล่าวมาแล้ว ผู้แข็งแรงเท่านั้นที่จะอยู่รอด) เมื่อมนุษย์สามารถอยู่รอดได้ การพัฒนาตัวเอง ให้อยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่ (เหนือระดับกว่า การอยู่เพียงแค่เอาตัวให้รอด) จึงจะเป็นไปได้

          เมื่อมนุษย์ มีคุณสมบัติครบถ้วนข้างต้นแล้ว การดำเนินการให้ได้มา ซึ่งชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ตามความหมายทั่วไป ก็เพียงดำเนินการไปตามปกติ ผู้ยิ่งใหญ่ทั้งหลาย ส่วนใหญ่จะค้นพบตัวตนได้เร็ว รู้ว่า ตนมีคุณสมบัติ และ ความสามารถขนาดไหน เมื่อได้ทำงานที่เหมาะสมกับตัวแล้ว แม้ทำงานไปตามปกติ ยังไม่ได้ทุ่มเทจริงจัง ผลของงานที่ได้ ก็มักสูงกว่ามาตรฐานแล้ว ปัญหาอุปสรรคที่มี ก็ไม่หวั่นไหว ย่อท้อ ค่อย ๆ แก้ไข จนสำเร็จลุล่วงไปจนได้ ยิ่งถ้าได้มุ่งมั่นทุ่มเท ทำงานไป อย่างต่อเนื่องจริงจัง พัฒนาให้ดีขึ้นตามลำดับ ความสำเร็จของงาน อย่างมีประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผลสูง ย่อมนำพาชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ มาสู่ผู้นั้นอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

          สำหรับบล็อก อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ของผม สนับสนุนให้ทุกคน ที่อยากอยู่อย่างยิ่งใหญ่ สามารถอยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้ง่าย ๆ ไม่ยากลำบากต่อการดำเนินการ อย่างการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป ตามที่กล่าวมาแล้ว ความหมายของ หลักการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ของผมนั้น แตกต่างออกไป หลักการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ของผม ให้เน้นมุมมองของคุณ มองมาที่ตัวเอง โดยให้รู้สึกว่า ตัวคุณเอง คือ ผู้ยิ่งใหญ่ ทั้งนี้ ไม่จำเป็นว่า คุณจะต้องรับผิดชอบภาระหน้าที่ ที่มีเป้าหมายพิเศษอันยิ่งใหญ่ ถึงจะทำให้คุณยิ่งใหญ่ (ภารกิจสำหรับการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป ต้องเป็นภารกิจอันยากลำบาก หรือ แทบเป็นไปไม่ได้ ที่จะทำสำเร็จ หากคนทำ ไม่มีคุณสมบัติอันยิ่งใหญ่ครบถ้วน) แม้คุณมีภาระหน้าที่ หรือ ทำงานธรรมดาที่สุด เช่น คนส่งหนังสือ เสมียนพนักงาน ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ฯลฯ คุณก็สามารถ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายของผมได้ ขอเพียงให้ภารกิจที่ คุณเลือกทำ เป็นภารกิจที่เหมาะสม กับตัวตนจริงของคุณ คุณมีความสนใจ ชอบ ถนัด หรือ มีพรสวรรค์จริง คุณจะกระตือรือร้น อยากทำงาน ไฟในตัวพวยพุ่ง พร้อมทำงานหนักอย่างไม่กลัวเหนื่อย สิ่งนี้จะสนับสนุนให้คุณ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้ง่าย การดำเนินการทั้งหมด คุณสามารถยืนหยัดดำเนินการ ด้วยตัวคุณเองเพียงลำพัง ไม่ต้องพึ่งพิงใคร โดยไม่จำเป็น ขอให้คุณมุ่งมั่นทำ อย่างต่อเนื่องจริงจัง ไม่หันเห ย่อท้อ เปลี่ยนแปลงไปทางอื่น การอดทนทำ อย่างต่อเนื่อง ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้แน่นอน และ วัตถุประสงค์สุดท้าย ผมอยากให้คุณได้อยู่อย่างยิ่งใหญ่จริง ๆ การอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป หากเกี่ยวกับการต่อสู้ การสงคราม หรือ การต้องเสี่ยงชีวิตใด ๆ เมื่อทำหน้าที่สำเร็จอย่างยิ่งใหญ่แล้ว หากมีการต่อสู้ การสงคราม หรือ การต้องเสี่ยงชีวิตครั้งใหม่เกิดขึ้น คุณก็ต้องเข้าสู้ เข้าเสี่ยงด้วยทุกครั้ง เมื่อต้องต่อสู้ หรือ เสี่ยงหลายครั้ง โอกาสพลาดย่อมสูง ชีวิตคนไม่ใช่การ์ตูน ตายแล้วฟื้น นี่เป็นชีวิตจริง พอพลาด คุณจะเหลือแต่ชื่อ ไม่มีชีวิต อยู่คอยภาคภูมิใจ ในผลแห่งความสำเร็จที่ตนเคยทำมา ไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ ของบล็อกนี้ ที่ต้องการให้คุณ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ไปได้อีกนานตราบเท่าที่สามารถจะเป็นไปได้ ดังนั้น การเลือกภารกิจที่ ไม่เสี่ยงต่อชีวิตมาก ๆ ควรจะเป็นตัวเลือกแรก ๆ ที่คุณจะเลือกทำ จะได้อยู่นาน ๆ ขอบอก

          คุณอาจสงสัยว่า ทำไมถึงต้อง อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะของผม เหตุผล ก็คือ สภาวะแวดล้อมปัจจุบัน สิ่งเย้ายวนมีมาก ทั้งอบายมุข การพนัน ยาเสพติด ฯลฯ พร้อมที่จะชักจูงให้เราหลงผิด ไม่ทำตัวไปตามแนวทางที่เหมาะสม แต่เมื่อคุณเห็นว่า ตัวคุณ คือ ผู้ยิ่งใหญ่ คุณได้ทำภารกิจที่เหมาะสมกับตัวตน คุณมี หลักการ และ เหตุผล ที่ถูกต้องในทุกสิ่งที่ทำ เมื่อสิ่งเย้ายวนโผล่เข้ามาชักจูงให้คุณหันเห หรือ ถอยห่าง หลักการ ที่ยึดเหนี่ยวมานาน ดึงให้คุณถลำเข้าไปอย่างไร้เหตุผลสมควร คุณจะไม่โอนอ่อนตาม จะยืนหยัดต่อสู้สิ่งต่าง ๆ ที่ไม่เหมาะสมด้วยตนเอง ด้วยคุณเป็นคนที่รัก เคารพนับถือ ภาคภูมิใจ และ ให้เกียรติตัวเอง พัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง การใดที่จะทำให้ตัวคุณเสื่อมเสีย เสียหาย ย่อมจะไม่ทำ สิ่งใดที่เคยหลงผิด เมื่อรู้ตัวแล้ว คุณจะละทิ้ง แล้วหันกลับมาแสวงหาแนวทาง การกระทำที่ถูกต้องทันที ความกล้าหาญ ความมั่นใจ จะทำให้เราบุกเบิก พบสิ่งใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อตัว และ คนรอบข้าง คุณเสียสละทุ่มเททำงาน ตามหน้าที่ให้สำเร็จ และ พยายามรักษาตนให้อยู่รอดปลอดภัย นานตราบเท่าที่จะเป็นไปได้ เมื่อคุณยึดมั่น กับการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้เช่นนี้ ความผิดพลาดบกพร่อง จะค่อย ๆ หายไป สิ่งดีงามจะเกิดขึ้น และ เป็นประโยชน์กับตนเอง และคนที่เกี่ยวข้อง เช่น คนในครอบครัว เพื่อนฝูง คนรู้จัก ความคิดที่ว่า คุณคือ ผู้ยิ่งใหญ่ สามารถทำได้ทันที คุณไม่จำเป็นต้อง มีความรู้ความสามารถมาก ไม่ต้องเก่งกาจ ไม่ต้องมีทรัพย์สินเงินทองมากมาย ไม่ต้องมีตำแหน่งใหญ่โต ไม่ต้องสวย/หล่อ ไม่ต้องทุ่มเท อาบเหงื่อต่างน้ำฝึกฝน ขอเพียงคุณมีลมหายใจ มี สติสัมปชัญญะ ครบถ้วน และมีความรักความเคารพนับถือ ให้เกียรติตัวเองก็พอ คุณก็อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ในโลกที่เต็มไปด้วย ปัญหาสารพันนี้ได้แล้ว

          คุณสมบัติที่คุณต้องมี หากต้องการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะของผม คือ

          ให้ยกย่องตัวเองว่า ยิ่งใหญ่ ผมเน้นให้คุณมองตัวเองเป็นผู้ยิ่งใหญ่ คนส่วนใหญ่ คอยแต่จะมองดู และ ยกย่องคนอื่นว่า ทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ เก่งกว่า หรือ ทำสำเร็จ คนนั้นเล่นกีฬาเก่งกว่า เรียนเก่งกว่า คนนี้ประดิษฐ์ของ ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนสำเร็จ ฯลฯ โดยที่ไม่เคยมองย้อน กลับมาดูตัวเองเลยว่า จริง ๆ แล้ว ตัวเองก็มีความสามารถหลายอย่าง เราอาจไม่เก่งในเรื่องกีฬา เรื่องเรียนอย่างเขา แต่บางเรื่อง เราอาจเก่งกว่าเขาก็ได้ เพียงแต่ความรู้ความสามารถของเรา อาจไม่ใช่สิ่งที่ อยู่ในความสนใจของคนทั่วไป พวกเขาอาจไม่ให้ความสำคัญ กับการกระทำ ตามความรู้ความสามารถของเรา เขาจึงไม่คิดว่าเราเก่ง เมื่อเราทำภารกิจเหล่านั้นสำเร็จ เขาจึงไม่ถือ เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แล้วเราต้องคิดอย่างเขาด้วยหรือ? ผมขอยกตัวอย่างให้ดูเช่น เราอาจเป็นพ่อ หรือ แม่เลี้ยงลูก 10 คน ในภาวะยากจนแร้นแค้น แต่เราสามารถอบรมเลี้ยงดู ส่งเสียให้ลูกทั้งหมดเรียนจนจบ สร้างครอบครัวที่อบอุ่น เป็นแบบอย่างแก่สังคมได้ หรือ เราอาจมีอาชีพเป็นตำรวจจราจร แต่เราสามารถช่วยหญิงท้องแก่ ให้คลอดลูกในรถแท็กซี่ โดยปลอดภัยมาแล้วถึง 40 คน ฯลฯ คนทั่วไปอาจมองว่า การเลี้ยงลูก 10 คน ได้ดี กับ การทำคลอดหญิงท้องแก่สำเร็จ 40 คน เป็นเรื่องธรรมดา ไม่สลักสำคัญ หรือ ยิ่งใหญ่อะไร ทั้งที่ในความเป็นจริง ความสามารถในการเป็นพ่อ หรือ แม่ที่เลี้ยงลูก 10 คน จนได้ดี ในภาวะยากจนแร้นแค้น กับ ตำรวจจราจรที่ถนัดแต่โบกรถ แต่ใฝ่ใจเรียนรู้ จนสามารถ ทำคลอดหญิงท้องแก่สำเร็จ 40 คน อย่างปลอดภัย ไม่ใช่เรื่องธรรมดาแน่ ภารกิจเหล่านั้นมีความสำคัญ เป็นประโยชน์ต่อสังคม และ มีความยากลำบาก ไม่ได้ยิ่งหย่อน หรือ อาจมากกว่า การเล่นกีฬา การเรียน หรือ การประดิษฐ์สิ่งของแปลกใหม่เสียอีกด้วย ต้องทุ่มเททั้งแรงกาย แรงใจ และเวลา เข้าไปแทบทั้งชีวิต จึงได้ผลงานอันน่าภูมิใจเช่นนี้ ถ้าเป็นมุมมองของผม ผมจะให้คะแนนพ่อแม่ที่เลี้ยงลูก 10 คน กับ ตำรวจที่ช่วยทำคลอดหญิงท้องแก่ 40 คน มากกว่า หรือ เท่ากันกับคนที่เล่นกีฬาเก่ง เรียนเก่ง หรือ ประดิษฐ์สิ่งของแปลกใหม่เก่งทีเดียว แล้วคุณเชื่อหรือไม่ว่า แม้สังคมโดยรวมจะไม่เห็นว่า การเลี้ยงดูลูก 10 คน จนตั้งตัวได้ กับ การช่วยทำคลอดหญิงท้องแก่สำเร็จ 40 คน เป็นความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ แต่คนส่วนหนึ่งในสังคม จะให้การยกย่อง การกระทำดังกล่าวว่า กระทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ และ เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาก แล้วคุณยังจะมองไม่เห็นความสำคัญอันยิ่งใหญ่ ของการกระทำของตัวเองได้อยู่อีกหรือ และ สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง คุณเคยรู้หรือไม่ว่า ในโลกนี้ มีคุณเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่มีใครคนใด สามารถทดแทนเป็นตัวคุณ หรือ ทำทุกสิ่งอย่างเหมือนคุณได้ (หากมีก็คงมีแต่ในหนัง หรือการ์ตูนเท่านั้นแหละ) คุณอาจมีฝาแฝดรูปร่างหน้าตาเหมือนกัน แต่ฝาแฝด ก็ไม่ใช่คุณอยู่ดี การมีคุณเพียงหนึ่งเดียวในโลก มันยิ่งใหญ่มาก โดยที่คุณอาจมองไม่เห็น หรือ ไม่เคยย้อนมองตัวเอง อย่างที่กล่าวมาแล้วข้างต้น คุณอาจมีความสามารถ ทำสิ่งที่คุณเก่งกว่าคนอื่น ไม่มีใครทำสู้คุณได้ตั้งหลายอย่าง เช่น คุณอาจดำน้ำได้ 2 นาทีครึ่ง คุณอาจเอาลิ้นแตะปลายจมูกได้ หรือ คุณอาจดื่มน้ำทางจมูกได้ ฯลฯ โดยที่ นักมวยรุ่นเฮฟวี่เวท มูฮัมหมัด อาลี หรือ นักสนุกเกอร์ชื่อดัง สตีฟ เดวิส ไม่สามารถทำได้ ถ้าเกิดเขาจัดแข่งดำน้ำทน แข่งแลบลิ้นยาว หรือ แข่งดื่มน้ำทางจมูก คุณต้องได้แชมป์แน่ และ ตามสถานภาพของคุณกับครอบครัว คุณจะเป็นผู้ที่เหมาะสมที่สุด ที่จะทำหน้าที่ ที่ได้รับจากครอบครัว ไม่ว่าในฐานะพ่อ แม่ ลูก หรือ เป็นอะไรก็ตามในครอบครัว คุณจะทำดี หรือไม่ดี คุณอาจจะเป็นพ่อ หรือ แม่ที่คอยจ้ำจี้จ้ำไชลูก ๆ ให้ทำตัวดี คุณอาจจะเป็นลูก ที่ไม่ค่อยมาเยี่ยมดูแล พ่อแม่ที่แก่เฒ่า หรือ คุณอาจชอบแกล้งน้อง ๆ แต่ความผูกพันของคุณกับคนในครอบครัว เขาก็ยังให้ความสำคัญกับคุณเป็นที่สุดอยู่ดี (คุณลองดูเด็กเกิดใหม่ ยังไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในครอบครัว ยังไม่มีความสามารถทำอะไรได้ทั้งสิ้น พ่อแม่ยังเห็นเขา เป็นคนยิ่งใหญ่สำคัญที่สุด (ยกเว้นพวกมีโดยไม่อยากมี)) หากสามารถเลือกได้ ระหว่างให้คุณสาบสูญไปจากโลก แล้วเอาเงิน จำนวนเท่านั้นเท่านี้มาแทน คนในครอบครัวคุณ ต้องเลือกเก็บคุณไว้แน่ เงินมากขนาดไหน ก็คงเอามาแทนคุณไม่ได้ (ยกเว้นคุณเป็นคนเลวบริสุทธิ์ ญาติระอา เขาอาจอยากได้เงินแทนก็ได้) ที่กล่าวมาทั้งหมด คุณพอจะมองเห็น ความยิ่งใหญ่ของตัวเองหรือยัง ถ้าคุณพร้อม เพียงคุณมองว่า คุณคือผู้ยิ่งใหญ่ คุณก็เป็นแล้ว

          ภารกิจที่ทำ เป็นภารกิจธรรมดา เช่น คนส่งหนังสือ เสมียนพนักงาน ขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ฯลฯ (ควรเป็น อาชีพสุจริต (ที่ไม่เสี่ยงชีวิต ไม่งั้นจะไม่ได้ อยู่ชื่นชม ภาคภูมิใจในความสำเร็จ) คนทำอาชีพสุจริตสำเร็จ จะมี ความภาคภูมิใจ เกิดขึ้น สำหรับอาชีพที่ไม่สุจริต นอกจากจะเสี่ยงคุกตารางแล้ว โอกาสไม่ได้ใช้ตังค์ยังสูง ถึงสูงที่สุด ถึงแม้ว่าคุณอาจจะเก่ง หลบรอดมือกฎหมาย ประสบความสำเร็จร่ำรวยขึ้นมา ในส่วนลึก คุณย่อมรู้ดีอยู่เสมอว่า คุณ ประสบความสำเร็จ จากอะไร รับรองว่าคุณไม่อยากพูด ให้ใครรู้เบื้องหลังของคุณ แล้วคุณจะภาคภูมิใจ กับความสำเร็จแบบนี้ได้หรือ) สามารถอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายของผมได้ ขอเพียงให้เป็นภารกิจที่เหมาะสม กับตัวตนจริงของคุณ คุณมีความสนใจ ชอบ ถนัด หรือ มีพรสวรรค์จริง คุณจะกระตือรือร้น อยากทำงาน พร้อมทำงานหนัก อย่างไม่กลัวเหนื่อย จะทำให้คุณมีโอกาส ประสบความสำเร็จสูงสุด สิ่งนี้จะสนับสนุนให้คุณ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้โดยง่าย ผมไม่ต้องการให้คุณ ทำภารกิจที่ยากลำบาก หรือ หนักอึ้ง สำเร็จ แล้วมายกย่องให้เป็นผู้ยิ่งใหญ่ เช่น เราสามารถล่าสัตว์มาเป็นอาหารได้ด้วยมือเปล่าอย่าง สัตว์นักล่า ผู้ยิ่งใหญ่ ทั้ง 3 ชนิด หรือ เป็นวีรบุรุษที่ชนะสงครามมา ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ถึงวีรกรรมอันยิ่งใหญ่ อย่าง เทพเจ้ากวนอู หรือ เป็นผู้ปลดแอกประชาชนจากการกดขี่ของฝ่ายผู้ปกครอง อย่าง มหาตมะ คานธี หรือ เป็นผู้คิดค้น บัญญัติทฤษฎีใหม่ เป็นคุณประโยชน์ต่อชาวโลกอย่าง อัลเบิร์ต ไอน์ไสตน์ เพราะงาน ที่จะทำให้เราเป็นผู้ยิ่งใหญ่แบบนั้น มันทำยาก หรือ แทบเป็นไปไม่ได้ ที่จะทำสำเร็จ ปัจจุบันสถานการณ์ ที่จะสร้างวีรบุรุษ วีรสตรี แทบไม่มีอีกแล้ว ถ้าคุณอยากจะยิ่งใหญ่อย่างนั้น คงหมดโอกาส

             มีร่างกายจิตใจ แข็งแรงระดับธรรมดา คุณต้องมีร่างกายจิตใจ แข็งแรงระดับธรรมดา เพื่อปฏิบัติภารกิจของคุณ ให้สำเร็จลุล่วง (ภารกิจแทบทุกอย่าง ต้องใช้ร่างกายจิตใจ แข็งแรงระดับธรรมดา ในการทำให้สำเร็จ หากร่างกายจิตใจ ของคุณ มีปัญหา โอกาสทำภารกิจให้สำเร็จ จะยาก หรือทำไม่ได้ เป็นอุปสรรคสำคัญ ต่อการอยู่อย่างยิ่งใหญ่) แล้วทำไมถึง ไม่ต้องการร่างกายจิตใจ ที่แข็งแกร่งสุด ๆ ในการปฏิบัติภารกิจ ยิ่งแข็งแกร่ง น่าจะยิ่งดีไม่ใช่หรือ การมีร่างกายจิตใจ ที่แข็งแกร่งมาก ๆ เหมาะกับการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ ตามความหมายทั่วไป (ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น) ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ ที่ต้องการให้ คนส่วนใหญ่ สามารถทำได้ง่าย และ ทำได้จริง สำหรับผู้ที่ ร่างกายพิการ ขาดอวัยวะสำคัญ ไปบางส่วน ตาบอด แขนขาด ขาขาด ฯลฯ ไม่ได้เป็นอุปสรรค ต่อการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายของผมแต่อย่างใด ขอเพียงร่างกายส่วนที่เหลือ ทำงานได้ ภายใต้ภาวะจิตใจเข้มแข็ง คนพิการบางคน พัฒนาความรู้ความสามารถของตน ขึ้นมาจนคนร่างกายปกติต้องทึ่ง เช่น ใช้ปากวาดรูปได้อย่างสวยงาม ใช้เท้าที่เหลือเพียงข้างเดียว ซ่อมรถจักรยานยนต์ ฯลฯ

          มีสติปัญญาระดับปานกลาง สติสัมปชัญญะครบถ้วน คุณต้องมีสติปัญญาระดับปานกลาง กับ สติสัมปชัญญะครบถ้วนก็พอ แต่ก็ไม่ใช่ว่า คุณมีปัญหาทางสติปัญญาได้ คนปัญญาอ่อน คนป่วยทางจิต คนวิกลจริต หรือ คนขาดสติสัมปชัญญะ แค่จะอยู่ให้รอดก็ยากแล้ว (คนเหล่านี้ ในมุมมองของผมคือ คนอ่อนแอ ที่ธรรมชาติกำจัดเขาไปแล้วตามกฎ) ไม่สามารถอยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้ แล้วทำไมผม ถึงไม่ต้องการระดับสติปัญญา ให้สูงที่สุด ยิ่งเป็น อัจฉริยะ ยิ่งดีไม่ใช่หรือ การมีสติปัญญาระดับสูง หรือ อัจฉริยะ เหมาะกับการเป็นผู้ยิ่งใหญ่ตามความหมายทั่วไป (ที่กล่าวมาแล้วข้างต้น) ไม่ใช่วัตถุประสงค์ของบล็อกนี้ ทำนองเดียวกับ เรื่องร่างกายจิตใจ ในย่อหน้าที่ผ่านมา ที่ภารกิจส่วนใหญ่ของมนุษย์ ต้องการระดับสติปัญญาเพียงปานกลาง สติสัมปชัญญะครบถ้วน ก็สามารถทำให้สำเร็จได้แล้ว

          มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และ ความอดทน สูง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้ เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องมีความมุ่งมั่นทุ่มเท ในการทำงาน งานไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิกรา และ ต้องมีความอดทนต่อสิ่งต่าง ๆ เช่น ความหิวโหย ความเหนื่อยล้า หรือ ความยากลำบาก ฯลฯ ได้อย่างดีเยี่ยม

           รัก เคารพนับถือ ให้เกียรติ ภาคภูมิใจในตัวเอง และ พัฒนาตัวเอง อยู่เสมอ มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้ เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องรัก เคารพนับถือ ให้เกียรติ ภาคภูมิใจในตัวเอง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ จะไม่กล้าทำสิ่งที่ให้ร้าย หรือทำลายตัวเอง มีความเคารพนับถือ ภาคภูมิใจ และ รักในเกียรติยศของตน พัฒนาตนเองอยู่เสมอ เท่าที่โอกาสจะอำนวย มนุษย์ที่มีคุณสมบัติข้อนี้ ต้องได้รับชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่แน่นอน

          มี หลักการ ที่ถูกต้อง และยึด หลักเหตุผล ในการดำเนินชีวิต มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้ เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องมี หลักการ ที่ถูกต้อง และ ยึด หลักเหตุผล ในการดำรงชีวิตทุกตัวคน สิ่งใดที่ขัดกับ หลักการดำเนินชีวิต และ ไม่สมเหตุสมผล จะไม่ยินยอมโอนอ่อนผ่อนตาม การดำรงตนอย่างไร้ซึ่ง หลักยึด หรือ ยอมทิ้ง หลักการ เพื่อประโยชน์ หรือ สิ่งใดสิ่งหนึ่ง มนุษย์ผู้นั้น ก็จะเหมือนคนทั่วไป ที่มีอยู่อย่างดาษดื่น ไม่มีทางที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ได้

              มี ความกล้าหาญ มั่นใจในตัวเอง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้ เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องมีความกล้าหาญ มั่นใจในการกระทำของตนเองว่า สิ่งที่ทำนั้นดี ถูกต้อง เหมาะสมกับเราแล้ว หากมนุษย์ ไม่มีความกล้าหาญ ในงานที่จะทำ ไม่มั่นใจว่า ตนมีความสามารถทำได้ โอกาสที่จะบุกเบิกทำงานใหม่ ๆ งานที่ท้าทาย หรือ หาจนพบงานที่เหมาะกับตัวตน มีความสนใจ ชอบ ถนัด และ มี  พรสวรรค์ ที่จะทำจะเป็นไปได้ยาก

           เสียสละทุ่มเท ต่อการทำงาน ระดับธรรมดา มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ ไม่ต้องเสียสละทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และเวลาในการทำงาน มากกว่ามนุษย์ทั่วไป ขอเพียงเสียสละบ้าง ในระดับมนุษย์ทั่วไปทำได้ (การทำภารกิจธรรมดา ไม่ต้องเสียสละอะไรมาก และ ผมไม่อยากให้เสียสละชีวิต อยากให้อยู่นาน ๆ ตามที่กล่าวมาแล้ว) ความเสียสละ ระดับธรรมดานี้ เพียงพอที่จะทำให้ ภารกิจธรรมดา ประสบความสำเร็จ แล้วอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้แล้ว

          รู้จักตัวตนของตัวเอง มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องรู้จักตัวตนของตัวเอง ค้นหาตัวเองให้พบโดยเร็ว การที่เรารู้จักตัวเอง ทำให้เรารู้ว่า เราคือใคร ต้องการอะไร สนใจ ชอบ ถนัด หรือมี พรสวรรค์ ทางด้านไหน การได้ทำในสิ่งที่ตนสนใจ ชอบ ถนัด หรือมี พรสวรรค์ ทำให้มีความอยาก และ กระตือรือร้นที่จะทำ การดำเนินการทั้งหลายทั้งปวง ตามลำดับขั้น จะมีความสุข และสนุกที่ได้ทำ ผลงานความสำเร็จ อันเต็มไปด้วยคุณภาพ และ ปริมาณย่อมเกิดขึ้น ชื่อเสียงอันยิ่งใหญ่ จะไม่หนีไปไหน

          การยืนหยัดได้ด้วยตนเอง ไม่พึ่งพิงอาศัยคนอื่น มนุษย์ที่จะอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้ (คุณสมบัติข้อนี้ เช่นเดียวกับความหมายทั่วไป) ต้องยืนหยัดให้ได้ ด้วยตนเองเพียงลำพัง เพราะคนที่ยืนหยัดได้ด้วยตัวเอง โดยไม่พึ่งพิงใครเท่านั้น ที่จะอยู่รอด อยู่ในโลกอันโหดร้ายนี้ได้ (ที่กล่าวมาแล้ว ผู้แข็งแรงเท่านั้น ที่จะอยู่รอด) เมื่อมนุษย์สามารถอยู่รอดได้ การพัฒนาตัวเอง ให้อยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่ (เหนือระดับกว่า การอยู่เพียงแค่เอาตัวให้รอด) จึงจะเป็นไปได้

          อยู่ให้รอด ได้นานตราบเท่าที่จะเป็นไปได้ การอยู่ให้รอด เป็นวัตถุประสงค์สำคัญ สำหรับการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ทีเดียว ให้คุณประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงโด่งดัง หรือ มีทรัพย์สินเงินทองมากมายเพียงใด ถ้าคุณไม่สามารถอยู่ได้ (ตายจริง หรือเหมือนกับตายไปแล้ว เช่น วิกลจริต โรคจิต หรือขาดสติสัมปชัญญะ ฯลฯ) คุณ หรือ ใคร ๆ ในโลก คงไม่ต้องการสิ่งเหล่านั้น ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ให้คุณคิดว่า ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า คุณต้องรักษามันไว้ให้ดีที่สุด ไม่ว่า คุณจะมีปัญหามากมายขนาดไหน ขอให้คิดว่า ทุกปัญหาสามารถแก้ได้ (ทุกปัญหาสามารถแก้ได้ เป็นความจริง หรือ เป็นคำพูดปลอบประโลม ให้คนคิดในแง่ดี ผมขอบอกว่า ทุกปัญหา สามารถแก้ได้นั้น เป็นความจริง เพราะทางแก้ปัญหา ที่สำคัญทางหนึ่ง ที่ใช้แก้ปัญหาได้ทุกปัญหา คือ การอยู่เฉย ๆ ไม่ต้องทำอะไรเลย ปล่อยให้ปัญหา แก้ตัวมันเอง) ผมจะยกตัวอย่างให้ดู เช่น คุณอาจจะเป็นหนี้ล้นพ้นตัว จนไม่สามารถชดใช้คืน คุณกู้ทุกทาง หมดปัญญาแล้ว คุณรู้ว่า เจ้าหนี้ต้อง ส่งคนมาเช็คบิลล์กับคุณแน่ ผมเห็นบางคน แก้ปัญหาด้วยวิธีปีนเสาไฟฟ้า ขึ้นไปอยู่บนดาดฟ้าตึก (คงขึ้นไปคิดหา วิธีแก้ปัญหา) ผมขอแนะนำว่า กรุณาอย่าทำอย่างนั้น ขอให้คุณอยู่นิ่ง ๆ รอจนเจ้าหนี้มาหา อธิบายเหตุผลให้เขาฟังว่าคุณยอมรับผิด ที่กู้เงินมา แล้วใช้คืนตามกำหนดไม่ได้ เพราะ รายได้น้อย หนี้สินมาก ค่าครองชีพสูง ต้องเลี้ยงดูครอบครัว ลูกเมียหลายคน ฯลฯ ที่ต้องกู้เงินเจ้าหนี้มา เพราะเอามาแก้สถานการณ์เฉพาะหน้า ไม่ให้อดตายแล้วเจรจาขอผ่อนผันกับเขา พูดให้เข้าใจว่า หากไม่ยอมผ่อนผันให้ ช่วงนี้ ก็คงไม่สามารถหาเงินมาชำระหนี้ได้ เจ้าหนี้อยากจะทำอะไรกับคุณ ก็ให้ทำได้เลย จะไม่โอดครวญใด ๆ ทั้งสิ้น (หากเจ้าหนี้ ไม่ยอมผ่อนผันจริง ๆ คุณก็คงต้องยอมรับ ชะตากรรมอย่าไปโทษใคร เพราะคุณรู้ดีแก่ใจแต่แรกแล้วว่า การกู้เงินนอกระบบของคุณแบบนี้ ไม่มีทางที่คุณ จะชำระหนี้คืนตามกำหนดได้แน่ แต่คุณก็ยังฝืนกู้ เมื่อคุณไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนดเวลา โดยเจ้าหนี้ไม่ยอมผ่อนผันให้ ก็ต้องปล่อย อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด ปล่อยให้ปัญหามันแก้ตัวมันเอง (คุณอาจจะถูกทำร้าย หรือฆ่าตาย กรณีเจ้าหนี้คุณเป็น มาเฟีย (ประเทศไทยยังมีแพร่หลาย กระจายประปรายอยู่ทั่วประเทศ ปรากฏเป็นข่าวลงหนังสือพิมพ์เป็นระยะ ๆ ) ไหน ๆ คุณก็จะฆ่าตัวตายเองอยู่แล้ว ยืมมือเจ้าหนี้ฆ่าเราซะเลย เวรกรรมจะได้ตกเป็นของเจ้าหนี้) คุณเชื่อผมเถอะ ถ้าคุณยอมรับผิด หาหนทางแก้ไข ความผิดอย่างจริงจัง (ไม่ใช่รับปากแบบขอไปที โกหกให้ผ่านไปวัน ๆ ไม่ยอมแก้ไข สิ่งที่ผิดให้ถูกต้อง ปัญหาก็จะวกกลับมาที่เดิมอีก) ไม่มีเจ้าหนี้คนไหน ใจไม้ไส้ระกำ ฆ่าคนทั้ง ๆ ที่ยอมรับผิดแล้ว คิดจะแก้ไขหรอก (หวังว่า คุณคงจะไม่เป็นคนที่มีชื่อ อยู่ในบัญชีเชือดไก่ให้ลิงดู ของนายทุนเงินกู้นะ ถ้ามีก็ซวยไป) ส่วนใหญ่ที่เห็น เจ้าหนี้ มักจะเสนอทางออกให้ลูกหนี้ มีโอกาสได้ชำระหนี้ (ส่วนใหญ่ถือคติ กำขี้ดีกว่ากำตด ได้มั่งบางส่วน ยังดีกว่าไม่ได้เลย (กรณีที่คุณบังเอิญขี้เกียจหายใจ) ) การที่เจ้าหนี้ มาทวงตังค์คืนแล้วลูกหนี้ไม่คืนให้ เจ้าหนี้โกรธแค้น ต้องการฆ่าลูกหนี้ทิ้งให้หมดทุกคน คุณลองคิดดูซิ มันทำง่ายซะที่ไหน เสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง เป็นคุณ ๆ จะเอาด้วยไหม (คนปล่อยเงินกู้ ก็อยากได้กำไรเหมือนคุณ ปล่อยเงินออกไป ก็อยากได้ดอกเบี้ยกลับมา ไม่มีใครอยากได้ คุกตารางมาแทนหรอก) หรือ อีกตัวอย่าง เช่น เกิดคุณเจ็บป่วย ด้วยโรคที่รักษาไม่หาย โรคยอดฮิต (ความดัน เบาหวาน หัวใจ) โรคเอดส์ โรคไต ฯลฯ จำเป็นไหม ที่คุณจะต้องคิดสั้น ผมขอแนะนำ ให้คุณคิดให้ยาวขึ้นมาหน่อย การจบชีวิตนั้นง่าย แต่การอยู่กับโรคที่เป็น อย่างมีความสุขไม่ใช่ง่าย ถ้าคุณทำได้ คุณจะเป็นแบบอย่าง กับผู้ที่เป็นโรคอย่างคุณ ได้อีกมากทีเดียว ดังนั้นเมื่อคุณเป็นโรคที่กล่าวมาข้างต้น ให้คุณรักษา ไปตามอาการที่เป็นให้นานที่สุด และอย่างสุดความสามารถ (คิดในแง่ดีไว้ก่อน วันหนึ่งใกล้ ๆ นี้ ทางการแพทย์อาจศึกษาวิจัย ค้นพบวิธีการรักษาโรคของคุณ ให้หายขาด เท่านี้คุณก็สบายแล้ว) คุณไม่ต้องกลัวล่วงหน้าว่า จะไม่มีเงินค่ารักษา ไม่มีญาติพี่น้องคอยดูแล ถ้าคุณมีอาการหนัก จนช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ไม่มีคนเห็น คุณก็อาจจะตายไปแล้ว พอศพคุณมีกลิ่น คนอยู่ใกล้ ๆ เขาจะทนไม่ได้ เขาก็เอาศพของคุณไปทำพิธีเองแหละ (ไม่ต้องเสียเงินค่ารักษา ค่าทำศพ ประหยัดเงินได้โข) หรืออีกกรณี คนข้างบ้าน หรือ คนอื่นที่รู้ว่า คุณอาการหนัก เขาอาจช่วยเรียกรถพยาบาล หรือรถมูลนิธิอะไรก็ได้มาช่วยคุณ พอรถพยาบาล หรือ รถมูลนิธิมาช่วยคุณแล้ว ก็จะนำคุณส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล ปัจจุบัน รัฐมีสวัสดิการต้องสงเคราะห์รักษาผู้ป่วยทุกคน แม้คน ๆ นั้นไม่มีเงินค่ารักษา ไม่มีญาติพี่น้องคอยดูแล ไม่มีทางปฏิเสธคนป่วยได้ ถ้าบังเอิญ คุณต้องตายในโรงพยาบาล โดยหมอปล่อยให้ตาย เวรกรรมก็ตกกับหมอเองแหละ คุณพอจะเห็นหรือยัง การอยู่เฉย ๆ ปล่อยให้ปัญหามันแก้ตัวเอง ผลที่ได้รับ มันก็ไม่เลวร้ายจนเกินไป ดังนั้น ให้คุณคิดให้ได้ว่า ไม่มีปัญหาไหน ยิ่งใหญ่สำหรับคุณ จนทำให้คุณกลัวได้อีกแล้ว ให้คุณกล้ายืนหยัดอยู่ต่อไป ให้นานตราบเท่าที่จะเป็นไปได้

            รวมสรุปได้ ว่า การที่มนุษย์จะ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้นั้น ควรจะมีคุณสมบัติ และ ลักษณะการดำเนินการอันนำไปสู่ความยิ่งใหญ่ ดังนี้

          คุณสมบัติ มี

          ให้มองตัวเองว่ายิ่งใหญ่ มองให้เห็นคุณค่า ความรู้ความสามารถ ความเป็นตัวเอง แล้วยกย่องตัวเองว่ายิ่งใหญ่ ไม่มีใครเป็นตัวเรา ได้ดีเท่าเราอีกแล้ว

          ภารกิจหน้าที่ที่ทำ เป็นภารกิจธรรมดา ไม่ต้องเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ ยากลำบากสุด ๆ แต่อย่างใด แต่ขอให้ภารกิจนั้น ๆ ตรงกับความสนใจ ชอบ ถนัด หรือ พรสวรรค์ ของเรา เพราะจะทำให้เรามีความกระตือรือร้น อยากที่จะทำ และสำคัญที่สุดคือ มีความสุขกับงานที่ทำ การได้ทำงานที่สนใจ ชอบ ถนัด หรือมีพรสวรรค์ เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ ใฝ่ฝันทีเดียว มันจะสนับสนุนการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะได้อย่างดี

          มีร่างกายจิตใจ แข็งแรงระดับธรรมดา พอสำหรับการทำ ภารกิจธรรมดา ๆ ตามที่กล่าวมาสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องแข็งแกร่งมากสุด ๆ แต่อย่างใด

          มีสติปัญญาระดับปานกลาง สติสัมปชัญญะครบถ้วน พอสำหรับการทำภารกิจธรรมดา ๆ ตามที่กล่าวมาสำเร็จ ไม่จำเป็นต้องมี สติปัญญาระดับสูง หรือเป็นอัจฉริยะแต่อย่างใด

          มีความมุ่งมั่นทุ่มเท และความอดทนสูง งานไม่สำเร็จจะไม่ยอมเลิกรา และ ต้องมีความอดทนต่อสิ่งต่าง ๆ เช่น ความหิวโหย, ความเหนื่อยล้า หรือความยากลำบาก ฯลฯ ได้อย่างดีเยี่ยม
          รัก เคารพนับถือ ให้เกียรติ ภาคภูมิใจในตัวเอง และพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ ไม่ทำสิ่งที่ ให้ร้าย หรือทำลายตัวเอง มีความเคารพนับถือ ภาคภูมิใจ และ รักในเกียรติยศของตน พัฒนาตนเองอยู่เสมอเท่าที่โอกาสจะอำนวย
          มีหลักการที่ถูกต้อง และยึดหลักเหตุผลในการดำเนินชีวิต สิ่งใดที่ขัดกับหลักการดำเนินชีวิต และ ไม่สมเหตุสมผล ต้องไม่ยินยอมโอนอ่อนผ่อนตามอย่างเด็ดขาด
          มีความกล้าหาญ มั่นใจในตัวเองว่า สิ่งที่ทำนั้นดี ถูกต้อง เหมาะสมกับเรา การบุกเบิกไปจนพบงานใหม่ ๆ งานที่ท้าทาย เหมาะกับตัวตนของเรา ที่สนใจ ชอบ ถนัด และมี พรสวรรค์ อยู่จะง่ายเข้า
          มีความเสียสละทุ่มเทต่อการทำงานระดับธรรมดา ไม่ต้องเสียสละทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ และ เวลาในการทำงาน มากกว่ามนุษย์ทั่วไป ก็เพียงพอ ที่จะทำให้ภารกิจธรรมดา ประสบความสำเร็จได้
          รู้จักตัวตนของตัวเอง หรือค้นหาตัวตนให้พบโดยเร็ว ทำให้เรารู้ว่า เราคือใคร ต้องการอะไร สนใจ ชอบ ถนัด หรือมีพรสวรรค์ทางด้านไหน การได้ทำในสิ่งที่ตนสนใจ ชอบ ถนัด หรือมีพรสวรรค์ ทำให้มีความอยาก และกระตือรือร้นที่จะทำ การดำเนินการทั้งหลายทั้งปวงตามลำดับขั้น จะมีความสุข และสนุกที่ได้ทำ
          การยืนหยัดให้ได้ด้วยตนเองเพียงลำพัง ไม่พึ่งพิงอาศัยคนอื่น จึงจะสามารถที่จะอยู่รอดอยู่ในโลกอัน โหดร้ายนี้ได้ (ที่กล่าวมาแล้ว ผู้แข็งแรงเท่านั้นที่จะอยู่รอด) เมื่ออยู่รอดได้ การพัฒนาตัวเองให้อยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่จึงจะเป็นไปได้
          ต้อง อยู่ให้รอดนานตราบเท่าที่จะเป็นไปได้ การอยู่ให้รอด เป็นวัตถุประสงค์สำคัญสำหรับการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ยศถาบรรดาศักดิ์ ทรัพย์สมบัติ ไม่ใช่สิ่งมีค่าสำคัญที่สุด สำหรับเราเสมอไป พิสูจน์ได้อย่างแน่ชัด คือ ยกให้คุณได้ตำแหน่งเป็นประมุขสูงสุด ได้ครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมดในโลก แต่มีข้อแม้ว่า คุณจะต้องตาย ไม่ว่าคุณ หรือใครก็ตาม ไม่มีทางเลือกทางนี้แน่ นั่นแสดงให้เราเห็นถึงอะไร แสดงให้เห็นว่า บางขณะเราหลงผิดไปเอง คิดไปว่า ยศถาบรรดาศักดิ์ และ ทรัพย์สมบัติ เป็นสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา เราจึงมุ่งมั่น แสวงหามันอย่างเอาเป็นเอาตาย แต่ผมได้ชี้ให้คุณเห็นแล้วว่า มันไม่จริงเสมอไป ดังนั้น ชีวิตเป็นสิ่งมีค่า คุณต้องรักษามันไว้ให้ดีที่สุด จะได้อยู่คอยชื่นชม ภาคภูมิใจในการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ของเราตราบนานเท่านาน
          การดำเนินการไปตาม หลักการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ตามความหมายเฉพาะ คือ
          เมื่อคุณมีคุณสมบัติ สำหรับการอยู่อย่างยิ่งใหญ่ ตามความหมายเฉพาะ ของผมครบถ้วน ทั้งเรื่อง มุมมอง ภารกิจหน้าที่ ร่างกายจิตใจ สติปัญญา ฯลฯ ตามที่กล่าวมาแล้วทั้งหมด ผมขอแสดงความยินดีกับคุณด้วยว่า คุณคือ ผู้ที่อยู่ได้อย่างยิ่งใหญ่ตามความหมายเฉพาะของผมแล้ว การดำเนินการต่อไป ก็เพียงยึดมั่น หลักการ ต่าง ๆ ให้ได้อย่างเหนียวแน่น ก้าวย่าง พัฒนาดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่า สวรรค์จะพรากเอา ลมหายใจของคุณไป เกมส์ ๆ นี้ถึงจะจบ
          ก่อนที่คุณจะ อยู่อย่างยิ่งใหญ่เต็มรูปแบบ มีคุณสมบัติครบถ้วน และ ดำเนินการไปตามแนวทางที่กล่าวมาทั้งหมด คุณคงต้อง เริ่มด้วยก้าวย่างเล็ก ๆ ก่อน ในก้าวย่างเล็ก ๆ นั้น อาจจะเจอหลุม เจอร่อง เลี้ยวผิดเลี้ยวถูก แต่ขอคุณอย่าหยุดเดิน ให้คุณเดินต่อไป หกล้มหกลุก ก็ต้องยันตัวขึ้นมา เดินต่ออย่าให้การล้ม เป็นอุปสรรคกับการก้าวเดินต่อไปข้างหน้า สั่งสมเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ที่ยากลืมเลือนเอาไว้ เราไม่มีทางรู้ได้เลยว่า ทางเดินที่เราจะเดินไปข้างหน้า โดยที่เราไม่เคยผ่านไปเลยนั้น ทางไหนจะถูก ทางไหนจะผิด บางครั้ง เราอาจต้องทดลองเดินไปก่อน แล้วถึงจะรู้ว่า ทางไหนถูก ทางไหนผิด เมื่อเลือกเดินถูกทางแล้ว ค่อยมาแผ้วถางทาง ให้ราบเรียบสวยงาม แก้ไขปรับปรุง จนทางเดินนั้น เป็นทางที่ดีที่สุด สำหรับการก้าวเข้าสู่จุดหมายต่อไป เมื่อเราอยู่อย่างยิ่งใหญ่เต็มตัวแล้ว จะไม่มีสิ่งใด โยกไหวสั่นคลอน ให้เราล้มลงได้
            บล็อกนี้ มีพื้นฐานความจริง มาจากประสบการณ์ชีวิต ของผมโดยตรง ตั้งแต่เด็กจนถึงปัจจุบัน เรื่องราวชีวิตของผม มันอาจจะไม่โลดโผน ระทึกขวัญ ไม่สนุกสนาน น่าตื่นเต้น เศร้าเคล้าน้ำตา เหมือนหนังเหมือนละคร แต่ขอให้คุณเชื่อเถอะ เรื่องราวชีวิตคน ไม่ว่าจะเป็นของผม หรือของใคร จะเป็นช่วงแห่ง ความสำเร็จ หรือ ล้มเหลว ช่วงสุข หรือ ทุกข์ ถ้าได้ถ่ายทอด ให้คนทั่วไปได้รับรู้ จะเกิดประโยชน์อย่างมาก ในแง่ที่เขาสามารถนำไปศึกษา เป็นบทเรียนเปรียบกับชีวิตของตน นำแนวทาง หรือ สิ่งดี ๆ ไปใช้เป็นประโยชน์ สิ่งไม่ดีเก็บไว้เป็นคำเตือนสอน เนื้อหาในบล็อก ผมจะเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงปัจจุบัน ให้คุณรู้รายละเอียด การดำเนินชีวิต ในแต่ละช่วงตอนของผม ตอนเป็นเด็ก บางครั้งที่ผมทำผิดใหญ่โต (ผิดกฎหมายหลายครั้ง ถ้าถูกจับก็เข้าสถานพินิจและคุ้มครองเด็ก หรือบ้านเมตตาแน่นอน) ผมทำไปได้อย่างไร อะไรเป็นเหตุ ให้ผมทำ ผมทำแล้วผมเลิกทำได้อย่างไร ทำไมโจร ถึงได้กลายมาเป็นตำรวจ แล้วตำรวจ ที่เคยเป็นโจรอย่างผม จะเป็นตำรวจอย่างไร ขอคุณติดตาม เนื้อหาในบล็อกไปเรื่อย ๆ ผมจะเล่า ประสบการณ์ชีวิต ที่พบมา อธิบายรายละเอียด สอดแทรก ปรัชญา หลักการ เคล็ดลับ ข้อเสนอแนะ ข้อควรปฏิบัติดี ๆ เข้าไปในทุกบทตอน เมื่อคุณติดตามบล็อกของผม สักระยะหนึ่ง คุณจะรู้เลยว่า ผมมีความคิดว่า ผมยิ่งใหญ่จริง ๆ ทั้ง ๆ ที่ ตำแหน่งหน้าที่การงานของผม ก็เป็นเพียงระดับกลาง (ยศพันตำรวจโท (ตัวย่อ พ.ต.ท.) ตำแหน่งสารวัตร (ตัวย่อ สว.) อายุก็ปาเข้าไป 44 ปีแล้ว ไม่ใช่ ผู้ที่ประสบความสำเร็จ อย่างสูง ในหน้าที่การงานอย่างรวดเร็ว (ตำรวจมีประเพณีว่า การประสบความสำเร็จ เป็นผู้บริหารระดับสูงต้องรวดเร็วด้วย ไม่งั้นก็ธรรมดา) รายได้ หรือทรัพย์สินเงินทอง ก็ไม่ได้มีมากมาย จนอยากจะซื้อ หรือ จะทำอะไรก็ได้ ไม่ได้เป็นคนดัง หรือมีนามสกุล เป็นที่รู้จักในสังคม ทำไมผมถึงคิดว่า ผมอยู่อย่างยิ่งใหญ่จริง ๆ มาติดตามรายละเอียดในบล็อกกันได้ครับ


ยืนตระหง่านอย่างภูเขาไฟเซ็นต์เฮเลน
ยืนตระหง่านอย่าง ภูเขาไฟ เซ็นต์เฮเลน



หล่อเลี้ยงชาวประชาดั่งแม่น้ำหลีเจียง
หล่อเลี้ยงชาวประชาดั่ง แม่น้ำหลีเจียง


พัดทำลายดุจพายุหมุน
พัดทำลายดุจ พายุหมุน



เผาให้วอดวายเหมือนไฟป่า
เผาให้วอดวายเหมือน ไฟป่า
































        

















    
มนุษย์เย่อหยิ่ง คิดว่าตัวมีสติปัญญาสูง บางครั้งหลงลืมคิดไปว่า ตัวมี ความสามารถ ยิ่งใหญ่สามารถเอาชนะธรรมชาติได้ ปี 2554 ธรรมชาติเลยแวะเวียน มาล้อเล่นกับมนุษย์ เล่น แผ่นดินไหว มั่ง เล่น น้ำท่วม มั่ง เล่น พายุ ถล่มมั่ง เล่นพ่นควันออกจาก ภูเขาไฟ มั่ง ทำเอามนุษย์เล่นด้วยไม่ถูก ดังนั้นจึงขอเตือนความจำกันไว้ว่า ยามเมื่อเราอยู่กันอย่างสบายแล้ว อย่าหลงลืม บางสิ่งที่ธรรมดาเราไม่ค่อยนึกถึงเค้า แต่ความจริง เค้ามีพลังอำนาจเหนือกว่าเรามาก นั่นคือ ธรรมชาติ ถ้าเรา หลงลืมเค้านาน ๆ  วันใดวันนึง เกิดเค้าคิดถึง อยากมาเล่นกับเราแรงกว่านี้ ดูท่าเราจะรับกันไม่ไหว


ดูรายละเอียดรูปภาพ ภูเขาไฟ เซนต์เฮเลนได้ที่ลิงค์


ดูรายละเอียดรูปภาพ แม่น้ำหลีเจียง ได้ที่ลิงค์
http://www.consumersongkhla.org/paper/2159


ดูรายละเอียดรูปภาพ พายุ ได้ที่ลิงค์

ดูรายละเอียดรูปภาพ ไฟป่า ได้ที่ลิงค์
http://bit.ly/NSZdQ7

จบตอน หลักการ อยู่อย่างยิ่งใหญ่ เคล็ดลับ การดำเนินชีวิตอย่างเต็มภาคภูมิ โดยที่คุณไม่ต้องสวย/หล่อ รวย เก่ง ฯลฯ โปรดติดตามผลงานอันดับต่อไปได้ในเร็ว ๆ วันนี้


          

          
         

 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวัสดีครับทุกท่าน กรณีที่ท่านติดตามชมบล็อกของผมแล้วต้องการแสดงความคิดเห็น ผมเปิดกว้างสำหรับทุกท่าน ขอความกรุณาแค่แสดงความคิดเห็นให้ตรงกับเนื้อหาของผม กรณีจะแสดงความคิดเห็นที่ไร้สาระ ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเลย ได้โปรดอย่าทำเลยครับ ผมขี้เกียจลบ ขอบคุณมากครับ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น