วันพุธที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ปรัชญาชีวิตจริงจากความผิดพลาดของประสบการณ์ชีวิตในอดีต ตอนที่ 4

ปรัชญาชีวิตจริงจากความผิดพลาดของประสบการณ์ชีวิตในอดีต ตอนที่ 3 ที่จบไปแล้วนั้น ได้พูดถึงความผิดพลาดของผมที่เข้าไปคลุกคลีกับวงการพนันอย่างเต็มตัว การพนันอย่างแรกที่เข้าไปเล่นอย่างจริงจังก็คือ สนุ๊กเกอร์ แล้วด้วยความที่ชอบในการเสี่ยงโชค ผมก็ได้มีโอกาสเข้าไปสู่การพนันอีกหลายอย่าง เรื่องปืนเถื่อนที่ชื่นชอบก็ยังคงซื้อหาแล้วหาโอกาสเอาไปยิงบ่อย ๆ แถมมาหลัง ๆ ยังมาหัดเล่นระเบิดขวดอีกด้วย คุณคิดว่า ความสนุกของผมในวัยเด็กที่เล่ามานี่มันล่อแหลมต่อคุกตารางสิ้นดีมั้ยครับ ขอเชิญติดตามเรื่องราวความผิดพลาดในอดีตของผมในตอนที่ 4 นี้กันได้เลยครับ

           อุบัติเหตุที่เกิดขึ้น เป็นบทเรียนสอนให้ผมรู้ซึ้งถึงความไม่ปลอดภัยของการเล่นกับอาวุธปืน วัตถุระเบิด ผมว่าบทเรียนบทนี้เป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้ทั้งผมกับเฮียเล็กยังคงเติบโต ขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่อย่างปัจจุบันนี้โดยมีอาการครบ 32 หลังจากเกิดเหตุ ไม่ต้องเดาเลยครับ ปืนที่เอามาทดลองยิง เฮียเล็กรีบเอาไปคืน แล้วความคิดที่จะซื้อปืนเถื่อนไว้ใช้ก็ไม่อยู่ในหัวสมองอีก แก๊ปแผงกระดาษผมแทบไม่หยิบหรือกล้าซื้ออีกเลย ยิ่งในช่วงนั้นที่เคยบอกว่า ผมกับเจ๊กเริ่มเล่นระเบิดช่วงใกล้เคียงกัน หลังผมถูกระเบิดไม่นาน 
เจ๊กก็ถูกอุบัติเหตุระเบิดเลือดโชกต้องหิ้วร่องแร่งไปส่งโรงพยาบาลแทบไม่ทัน เช่นกัน ผมมาฉุกคิดได้เลยว่า หากยังคงฝืนอยู่ในวงการผลิตระเบิดขวดต่อไป อนาคตคงไม่รุ่งแน่ ผมขอลาออกจากวงการอย่างเป็นทางการนับแต่นั้น การระเบิดจนตาบอดหูหนวกไปชั่วขณะ ทำให้กลัวไม่กล้าย้อนกลับไปทำระเบิดขวดอีกเลย
          ย้อนกลับมาสู่เรื่องการเล่นสนุ๊ก ผมคลุกคลีอยู่ในวงการอย่างจริงจัง เห็นนักสนุ๊กระดับโลกที่เค้ามาเล่นให้ดูกันทางโทรทัศน์ มันเหมือนกับทำได้ง่ายมาก ผมเลยคิดว่า ถ้าพยายามฝึกฝนมาก ๆ เข้า น่าจะพัฒนาทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้นได้ ผมสู้กับนักสนุ๊กทั่วไปดะไปหมด ไม่ใช่ว่าตัวเองเก่งหรอก ที่เล่นพราะความมั่นใจค่อนข้างสูงเกินจริง เข้าใจว่าตัวเองน่าจะสู้กับนักสนุ๊กรุ่นเก๋าได้ ในความเป็นจริง ผมเข้าใจผิดในสิ่งที่กล่าวมาอย่างมาก ที่เคยบอกว่า คนเล่นมาก่อน ความชำนาญ ความแม่นยำ ประสบการณ์ ฯลฯ เค้ามีหลายสิ่งหลายอย่างที่เหนือกว่าเราอยู่มาก แต่ไอ้ความเหนือกว่าเรานี่มันแสบ มันซ่อนอยู่ภายในตัวของนักสนุ๊กเก๋า ๆ เหล่านั้น มันไม่แสดงโชว์ออกมาที่หน้าผากจนเราสามารถเห็นความเหนือกว่าเหล่านั้นได้ ความมั่นใจของเราที่ไม่มองทุกสิ่งตามพื้นฐานความเป็นจริง ประสบการณ์ชีวิตที่น้อยกว่า ทำให้เราประเมินคู่ต่อสู้ต่ำไป มองไม่เห็นความสามารถเหนือกว่าของคู่ต่อสู้ที่ปกปิดซ่อนไว้ หลงไปต่อสู้กับเค้าเป็นนานสองนาน กว่าจะรู้ความจริงว่า ไม่มีทางสู้กับนักสนุ๊กเหล่านั้นได้ ก็หมดตูดไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว (การประเมินคู่ต่อสู้ว่าเก่งไม่เก่งขึ้นกับประสบการณ์ ต้องวิเคราะห์กันตามสภาพความเป็นจริง ไม่เอาอคติ ความคิดเชิงบวก (คิดเข้าข้างตัวเอง คิดว่าต้องสู้ได้) อารมณ์ ความรู้สึกมาผสม ก็พอจะทำให้เรารู้สมรรถนะคู่ต่อสู้ที่จะต่อกรด้วยตามความเป็นจริง การดูคนไม่ใช่เรื่องง่าย บางคนท่าดีทีเหลว บางคนเสือซ่อนเล็บ ถ้าเราไม่มีประสบการณ์ ไม่มีเทคนิคการวิเคราะห์ที่ยึดหลักเหตุผล เอาอคติ อารมณ์ ความรู้สึกมาเกี่ยวข้องด้วย เราก็อาจจะกลัวคนท่าดีทีเหลว แต่ไม่กลัวพวกเสือซ่อนเล็บที่รอเคี้ยวเราอยู่ ทำให้คนที่เราควรจะเล่นด้วยดันไปกลัวเขา คนที่ไม่ควรไปตอแยก็ดันไปแหย่เค้าตื่น แล้วเราจะอยู่ในวงการได้ยังไง คนควรกินไม่กิน คิดจะไปกินกระดูกขัดมันทาแชลแล็ค ยิ่งอยู่ในวงการนานเท่าไหร่ ก็จะยิ่งหมดมากขึ้นเท่านั้น ในส่วนของผม ตอนหลัง ประสบการณ์ กับการยึดหลักเหตุผลทำให้ผมวิเคราะห์คู่ต่อสู้ได้ค่อนข้างตรงความเป็นจริง ผมเคยปราบนักสนุ๊กหลายต่อหลายคนมาแล้ว เวลาแทงโชว์แทงได้ดีมาก แต่เวลาเล่นจริงหมาไม่กัดเลย ที่เป็นอย่างนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก ตอนแทงโชว์ไม่มีอะไรกดดันนี่ มันก็เลยแทงง่าย ตอนแทงในเกมส์แทงไม่ลงเมื่อไหร่พวกคอยกระซวกไส้ไหล ผมก็มีคนเหล่านี้แหละเป็นกำลังใจให้ยังคงเล่นสนุ๊กต่อไปได้ในช่วงนั้น เดี๋ยวนี้วางคิวแล้ว เนื่องจากสายตายาว เห็นหรือยังครับ คนที่จะยืนหยัดได้นานไม่เพียงในวงการสนุ๊ก วงการอื่น ๆ ก็เช่นกัน เราต้องประเมินคู่ต่อสู้ให้ได้ความจริงเนื้อ ๆ เราถึงจะรู้ว่า ควรจะสู้หรือถอย ทั้งนี้ก็เพื่อสุขภาพกระเป๋าอันดีนั่นเอง)
          การเล่นสนุ๊กของผมที่ได้เปรียบ และชนะแทบตลอดคือการเล่นกับบรรดาเพื่อนรุ่นเดียวกัน ที่ผมเป็นคนชวนมาเล่น ผมฝึกเล่นมาก่อน ได้ต่อสู้ในเกมส์เขี้ยว ๆ กับคนเก่งกว่ามามาก ความเก๋าเยอะกว่าเพื่อนเยอะ เพื่อนผมไม่ใช่พวกมีพรสวรรค์โดดเด่น ดังนั้น เป็นธรรมดาเลยสู้กับผมชนะยาก เล่นกันแต่ละครั้ง ไม่ต้องแปลกใจผมหอบเงินกลับบ้านตลอด ไม่มากก็น้อย
          ผมเล่นสนุ๊กมาตั้งแต่ชั้น ม.3 จนถึงอายุ 40 ขวบเศษ จึงเลิกเล่น เหตุผลที่เลิกเล่นไม่มีอะไรมาก แพ้สังขารตัวเอง หลัง ๆ มานี้ สายตาผมยาว สังเกตได้จากการอ่านหนังสือใกล้ ๆ ไม่ได้ มัวจนมองไม่รู้เรื่อง เสียงกริ่งโทรเข้าดังต้องยื่นโทรศัพท์ไปสุดแขนยังอ่านไม่ค่อยรู้เรื่องว่า ใครโทรมา ถ้ายื่นโทรศัพท์ไปที่เท้าได้คงทำแล้วหล่ะ แรก ๆ ที่สายตายาวไปแทงสนุ๊กยังไม่ค่อยรู้สึกอะไร หลัง ๆ มาฝีมือชักเพี้ยนหนักข้อขึ้น วันนึงอาจแทงดีเป็นพระเอก อีกวันกลายเป็นโจรกระจอกไปซะยังงั้น งงตัวเองเหมือนกัน ฝีมือตัวเองมันไม่น่าจะตกขนาดนั้น หลัง ๆ มา เหตุการณ์มันย้ำเตือนว่า มือเราไม่เหมือนเก่าซะแล้ว พอเรามาหวนคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างจริงจัง ได้ข้อสรุปที่ชัดเจนขึ้นมาทันที นักกีฬาสนุ๊กเกอร์นั้น สายตาเป็นสิ่งสำคัญมาก การที่จะแทงสนุ๊กให้ได้ดีติดอันดับอยู่ในทำเนียบแชมป์ ร่างกายต้องพร้อม สายตาต้องสดใส มองสิ่งต่าง ๆ ชัดเจน สิ่งเหล่านี้บรรจุอยู่ในคนอายุน้อยทั้งนั้น พอได้แชมป์มารักษาแชมป์่ได้ไม่กี่ปี เด็กรุ่นใหม่ ๆ เข้ามาแย่งตำแหน่งแชมป์ไปซะแล้ว ก็ด้วยเด็กใหม่ ๆ มันสดกว่า แชมป์เก่ามีแต่ร่วงโรย ไม่เคยมีใครรักษาแชมป์ต่อเนื่องยาวนานจนแก่เลยซักคน อายุเลย 30 ไปหน่อยก็ฟอร์มตก พอเสียแชมป์เล่นไปอีกพักนึงก็ต้องเลิกชิงแชมป์ หรือเลิกเล่นไปเลย เพราะฝีมือจะไม่มีทางกลับคืนดีเหมือนตอนที่ยังรุ่ง นักกีฬาต้องทำใจเผื่อไว้ว่า ซักวันนึง คลื่นลูกใหม่ก็ต้องไล่คลื่นลูกเก่า จากตำแหน่งแชมป์ก็ต้องกลายเป็นอดีตแชมป์ ที่มันเป็นอย่างนี้ ก็เพราะสังขารนี่แหละที่เป็นต้นเหตุ ไม่มีใครเอาคนแก่มาแข่งกีฬากันหรอก นักกีฬาที่อยู่ในวัยหนุ่ม สมบูรณ์พร้อมทุกอย่าง แข่งกีฬาอะไรก็ได้เปรียบ พอแก่ตัวอะไรอะไรที่มันเสื่อมได้มันเสื่อมหมด ของผมนั้น ปัญหาสายตายาวทำให้ผมต้องยอมเลิกจากวงการสนุ๊กเกอร์ไป ทั้งที่ช่วงหลัง ๆ มา ผมค่อนข้างมีรายได้จากการเล่นสนุ๊กพอสมควร เหมือนกับเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้ให้กับผมเลยทีเดียว ปัญหาสายตายาวทำเอาการเล่นสนุ๊กของผมปั่นป่วนหมดสนุกไปเลย ที่เคยแทงได้ดี กลายเป็นดีมั่งไม่ดีมั่ง การเล่นสนุ๊กนี่ ถ้าเราเล่นวันนึงดี อีกวันนึงเลว ไม่สม่ำเสมอ ลองคิดดูซิครับ ใครจะเป็นคนได้ประโยชน์จากเหตุการณ์นี้ เจ้าของโต๊ะซิครับ ได้ไปเต็ม ๆ คนเดียว สมมุติว่าเราเล่นสนุ๊กเมื่อวานได้ 500 บาท พอมาวันนี้เล่นเสีย 500 บาท ดูเผิน ๆ เหมือนเราไม่ได้ไม่เสียอะไร แต่ไม่ใช่หรอกครับ เราเสียเวลาไปเยอะมากในการเล่นสนุ๊ก เสียค่าอาหารค่ารถค่าน้ำมัน แล้วยังมีค่าเหล้าค่าบุหรี่สำหรับคนที่ชื่นชอบมันอีก ค่าใช้จ่ายแต่ละครั้งอาจไม่มาก แต่หลายครั้งเข้า รวมกับเสียเวลาไปเปล่า ๆ ปรี้ ๆ ซ้ำด้วยการเสียสุขภาพ อดหลับอดนอน สูดควันบุหรี่ที่อัดกันอย่างกับโรงสีไฟ (นักสนุ๊กหรือนักพนันอะไรก็ตาม มักจะมีคนสูบบุหรี่ การเล่นพนันก็มักจะสุมหัวกันอยู่ในห้อง ใครอยากสูบก็ควักขึ้นมาสูบ ลองจินตนาการเอาเองแล้วกันว่า เราต้องอยู่ในห้องนั้นเป็นวัน ๆ ในสภาพบรรยากาศมัวซัวไปหมดด้วยควัน สุขภาพเราจะไหวมั้ย ผมกลับจากเล่นสนุ๊กที กลิ่นบุหรี่จะอบอวลหึ่งไปทั้งตัวทีเดียว) ผมว่าเราเสียค่าอะไรต่อมิอะไรไปมากพอดู ถ้าเราไม่รู้ความจริงจากสิ่งบอกเหตุเหล่านี้ สภาวการณ์มันจะเหมือนกับว่าตังค์เราหายไปทั้งที่ไม่ได้ใช้อะไรเลย ทำไมตังค์ถึงหมด อาจโทษใครขโมยไปส่งเดชไปเลย จริง ๆ เราหมดไปกับค่าโสหุ้ยในการเล่นนั่นเอง
          อีกอย่างที่เร่งให้เราหมดตังค์ไปอีกไม่ใช่น้อย โดยที่เราไม่รู้สึก หรือไม่รู้ตัว คือ ในวันที่เราเล่นได้ นักพนันส่วนใหญ่จะครบเครื่องเรื่องฮาเฮ สุรานารีพาชีกีฬาบัตร เข้าไปมีเอี่ยวทั้งหมด หรือไม่ก็รับเอาไว้เพียงบางอย่าง แต่ละอย่างดูดตังค์เราอีกไม่ใช่น้อย พอเล่นได้ ความรู้สึกอยากเอาเงินไปหาความสุขจะเยอะ อยากไปนู่นไปนี่ ทั้งที่มันหลังเที่ยงคืนไปแล้ว เวลาดึกดื่นเพียงไหน ก็ไม่อาจลดความอยากถลุงตังค์ของพ่อเจ้าประคุณรุนช่องไปได้ คงต้องดิ้นรนหาทางจ่ายตังค์ให้หมดให้จงได้ ตังค์ที่เล่นได้มาอาจหมด หรือเหลือน้อย แทนที่จะได้เอาไปใช้ทำธุระจำเป็นมั่ง กลับเอาไปถลุงกับสิ่งเสียเปล่าไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ได้เพียงความมันส์ในอารมณ์เท่านั้นเอง นี่เป็นเวอร์ชั่นตอนที่เล่นได้นะ ไม่เคยได้ตังค์เต็ม ๆ กลับบ้านหรอก ทีนี้ถ้าเราเกิดเสียล่ะ เราเสียเยอะกว่าที่เรารู้ เราเสียเงินที่เราเล่นไป เสียค่าใช้จ่ายค่ากินค่าดื่มค่าน้ำมันรถ ฯลฯ แล้วผมถามจริง ๆ เถอะ เราจะเล่นหาพระแสงของ้าวอะไรไม่ทราบ เวลาเล่นได้ตังค์ก็เอาไปทิ้งมั่ง เอาไปแจกมั่ง เวลาหมดเผลอ ๆ ต้องไปกู้เค้ามาใช้จ่าย แย่หนักหน่อยอาจไม่มีกินแทบจะแย่งสุนัขรับประทานข้าวทีเดียว ผมคลุกคลีอยู่ในวงการพนันมานานพอดู พอที่จะเห็นความเป็นมาเป็นไปของผู้ที่ลุ่มหลงมัน จริง ๆ แล้วคนเล่นการพนันเป็นกลุ่มคนที่น่าสงสาร หลงไหลไปกับจินตนาการว่าจะรวยวันรวยพรุ่ง โดยที่มันไม่เคยเป็นจริงซักที บรรดา เจ้ามือ นายบ่อน เจ้าของบ้านที่เปิดให้เล่น รวยกันสะดือจุ่นสะดือปลิ้น คนเข้าไปเล่นมีที่มรดกตกทอดมาหลายชั่วคน ก็มักมีอันต้องหลุดลอยไปในชั่วคนที่ผีพนันเข้าสิงนี่เอง คนเล่นนี่มีความสามารถมาก สามารถเอาที่ดิน รถยนต์ ทรัพย์สมบัติต่าง ๆ ยัดเข้าไปในถ้วยเล็ก ๆได้ บางคนก็มีจิตเมตตามาก ซื้อหญ้าให้ม้ากินทีเป็นหมื่นเป็นแสน บรรพบุรุษรู้เข้าแทบอยากลุกจากโลงมาเตะปากมันเข้าให้
          คุณอ่านที่ผมเล่าให้ฟังแล้วคุณอาจรู้สึกว่า ผมไปวิพากวิจารณ์นักเล่นการพนันได้ยังไง เดี๋ยวเค้าได้ว่าเอาหรอกว่าไม่รู้จริงดันเอามาพูด ผมจะบอกให้ว่า ผมคลุกคลีกับวงการพนันมาตั้งแต่เด็ก อายุ 5 - 6 ขวบ เล่นอะไรต่อมิอะไรเป็นแล้ว แถวบ้านผมมีการเล่นกันประปรายทั้งไพ่ ไฮโล หัวโต (เรียกอีกอย่างน้ำเต้าปูปลา บางที่ใช้ลูกกล่องกระดาษ บางที่ใช้ลูกพลาสติกลูกงา เอากล่อง หรือถ้วยไฮโลมาครอบหรือเขย่าเอา ลูกหัวโตจะมี 6 หน้า ใน 6 หน้า ประกอบไปด้วย น้ำเต้า ปู ปลา กุ้ง กบ เสือ (ดูน้ำเต้าสิ ไม่ใช่สัตว์กับเค้าซักหน่อย ดันมาอยู่รวมกับบรรดาสัตว์ต่าง ๆ นี่ได้ยังไง ไม่รู้ต้นคิดการเล่นการพนันนี้เค้าคิดยังไง แปลกดี) การพนันแบบนี้คุณคงเคยเห็นเค้าเล่นกันมาบ้าง อย่าไปอยากเล่นเข้าหล่ะ โอกาสหมดตัวสูง) นักเล่นเค้าเป็นผู้ใหญ่ทั้งนั้นเล่นกันได้เสีย ไอ้ผมเด็ก ได้ตังค์วันละหน่อยดันซ่าส์ อยากได้ตังค์เยอะ ๆ เห็นตังค์มาก ๆ เข้าตาโต ไหนได้ หมดตูดทั้งปี ไม่มีเหลือหลอ ตังค์แทนที่จะเป็นประโยชน์ ได้ซื้อขนมของกินของใช้ เอาไปสนับสนุนให้เจ้ามือเค้ารวยอยู่ได้ ไม่รู้ติดหนี้เค้ามาแต่ชาติไหน แล้วผมเข้าเล่นการพนันที่มีเจ้ามือเมื่อไหร่ เสร็จเค้าทุกที (มารู้ทีหลัง ไพ่ ไฮโล หัวโต มีการโกงกันอย่างมโหฬาร ท่านที่เป็นคนมองโลกในแง่ดีคิดว่า "โอ๊ย วงนี้เค้าไม่โกงหรอก เค้าเล่นกันแฟร์ ๆ" ผมขอแนะนำว่า เดินกลับหลังหันแล้วรีบเดินออกจากวงไปเถอะครับ ท่านจะเป็นคนที่หมดตูดรายต่อไป แล้วไม่ใช่แค่หมดตูดครั้งเดียว ถ้ายังคงเป็นคนมองโลกในแง่ดีอย่างนี้อีกต่อไป ท่านจะหมดตูดตลอดชาติ ถ้าชาติหน้ายังคงคิดเหมือนเดิมก็จะหมดตูดอีกทุก ๆ ชาติไป ที่ผมบอกได้อย่างนี้คุณยังไม่ต้องเชื่อผม ใครที่กำลังเล่นอยู่แล้วเล่นแบบมองโลกในแง่ดีอย่างที่ผมบอก คุณลองไปที่ร้านขายอุปกรณ์การพนันที่เค้าขายลูกไฮโลว์ ลูกน้ำเต้าปูปลา หรือไพ่ ฯลฯ แล้วลองถามเค้าดูว่า คุณอยากจะได้ของไปเล่นกับเพื่อน ๆ โดยคุณต้องการของแบบไหน เล่นกันยังไง เค้าจะแนะนำอุปกรณ์ที่คุณจะเอาไปเล่นกับคู่ต่อสู้อย่างเหมาะสม ถ้าเป็นไพ่ เค้าอาจขายไพ่ที่ทำตำหนิไว้ เวลาคุณแจกคุณรู้หมดทุกตัว แต่ลูกค้าไม่รู้ หากคุณชำนาญขึ้นมา อาจเอาไพ่ถอดมาให้คุณเล่น (วิธีนี้อาจต้องมีฝ่ายเดียวกับคุณ (หน้าม้า) คอยช่วยถอดช่วยตัด พอคุณแจกแต้มของคุณจะกินลูกค้าซะส่วนใหญ่ อาจมีคนดวงดีไม่โดนกินบ้าง แต่เล่นกันไปนาน ๆ ปล่อยเจ้ามือแจกไปลักษณะนี้ ถ้าคุณเป็นคนแทง เดี๋ยวคุณก็เดินตัวเบากลับบ้านสบายไป ถ้าเป็นไฮโลว์ หัวโต อุปกรณ์การเล่นพัฒนาไปมาก ใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ มาช่วย ถึงขนาดเห็นลูกทั้ง 3 ลูกว่าออกอะไรทีเดียว ดังนั้นเวลาเล่นในบ่อน หรือสถานที่ที่จัดให้มีการพนัน สถานที่เหล่านี้เค้ามีค่าใช้จ่ายเยอะ ทั้งนักเลงหลวงนักเลงราษฎร์จ่ายดะไปหมด ลูกน้องก็ต้องดูแลเยอะแยะ ถ้าเค้าเล่นกับลูกค้าแฟร์ ๆ หมายความว่า เจ้ามือ ก็มีโอกาสหมดตูดพอกับลูกค้า ทำไปพักนึงดวงซวย ๆ ก็ต้องกลับไปขายเต้าฮวยเหมือนเดิม แต่ผมไม่เคยเห็นเลยว่า เจ้าของบ่อน หรือเจ้าของสถานที่จัดเล่นพนันเจ๊งแม้แต่คนเดียว เห็นแต่รวยเอ๊ารวยเอาก็ด้วยมีพวกลูกค้าที่คิดบวก มองโลกในแง่ดีนี่แหละ เอาตังค์ไปสนับสนุนให้เค้ารวย บางคนก็เอาตังค์ไปให้เค้าทำเสาบ้าน บางคนก็ช่วยเค้าทำกำแพง บางคนก็ช่วยค่าเล่าเรียนลูกที่ส่งไปเรียนนอก คุณดูเหตุดูผลให้ทั่ว ๆ คงพอสรุปได้หรือยังว่า เค้าเล่นกับเราแฟร์ ๆ หรือไม่ การโกงของทางบ่อน คุณไม่มีโอกาสที่จะรู้ได้เลยว่า เจ้ามือเอาลูกอะไรมาเล่น ลูกโกงมีสารพัด มีทั้งมีแม่เหล็ก ไม่มีแม่เหล็ก ใช้รีโมต ใช้เทคโนโลยี นอกจากลูกโกง ถ้วย ฝา สถานที่ที่จัดเล่น ก็สามารถจัดเตรียมวิธีการโกงได้สารพัด คนที่ลงไปเล่นโดยไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ได้ตังค์กลับบ้านจะถือว่าเฮงสุดขีด (หมดตูดเกือบทุกคน)
          นอกจากผมคลุกคลีวงการพนันเหล่านี้แล้ว วงการพนันอย่างอื่นที่พอมีโอกาสได้คลุกคลีก็มีมวยไทย กอล์ฟ ตีไก่ ไอ้ที่เคยเล่นตอนเด็ก ๆ จิ๊บ ๆ จ๊อย ๆ ก็มีพวกทอยเส้น ปั่นแปะ ล้อต๊อก พอจะเห็นหรือยังครับ ผมนี่ผีการพนันเข้าสิงในกระแสเลือดพอสมควร แต่ละวงการที่เข้าไปคลุกคลีคิดสะระตะแล้ว ค่อนไปทางเสียมากกว่าได้
          การเล่นสนุ๊กของผมค่อนข้างดีขึ้นมากในช่วงหลัง เพราะอะไรหรือครับ แค่ผมเปลี่ยนวิธีคิดวิธีเล่น จากการเล่นบุก เปลี่ยนเป็นตั้งรับเหมือนมวยจังหวะ 2 แล้วแต่ละลูกเน้นให้แน่นอนเข้าไว้ เท่านั้นแหละได้เรื่อง แต่ก่อนเวลาลูกลอย (ลูกแดง ลูกสี ออกห่างจากชิ่งจะแทงให้ลงง่ายกว่าลูกอยู่ใกล้ หรือแนบชิ่ง) อยากแทงให้หมดโต๊ะในไม้เดียว นักสนุ๊กดาวรุ่งชอบที่สุดที่จะแทงให้หมดโต๊ะในไม้เดียว มันสะใจมาก พอเอาเข้าจริง เริ่มลูกแรกก็ไม่ลงแล้ว (ถุย...) ไอ้การเล่นที่เห็นลูกลอยแล้วอยากจะแทงให้หมดในไม้เดียวเนี่ยะ มันเป็นโรคติดต่อร้ายแรงของนักสนุ๊กที่ยังเด็ก ขาดประสบการณ์ทุกคน ตอนเข้ามาหัดแทงสนุ๊กอยากทำได้เหมือนสตีฟ เดวิส, สตีเฟน เฮนดรี หรือ ต๋อง ศิษย์ฉ่อย กันทั้งนั้น แต่โทษที มันเป็นอย่างนั้นง่ายมั้ย พวกนั้นเค้าพรสวรรค์ระดับโลก เรามันพรสวรรค์ระดับท้องถิ่น คิดอยากจะทำอย่างนั้นไม่ถูกต้องอย่างมาก การเล่นไม้เดียวหมดโต๊ะต้องใช้ฝีมือสูงมาก การเดินลูกขาวจะยากกว่าการแทงแค่ลงอย่างมาก ต้องใช้การแทงทั้งสกรู ฟอลโลว์ หรือแทงไซร้ ซึ่งการแทงสกรู ฟอลโลว์ หรือแทงไซร้นั้น ถ้าไม่หัดจนชำนาญ หรือแทงเก่งจริง ๆ ทำยากมาก แต่ฝีมือระดับเราดันคิดอยากจะแทงเหมือนในโทรทัศน์ ก็สบายเท่านั้นเอง อย่างที่ผมบอก จะแทงให้หมดโต๊ะ โธ่ แค่ลูกแรกก็ไม่ลงแล้ว (ไอ้อาการนักสนุ๊กแบบนี้เค้าเรียกว่า สู้แบบไม่ประเมินกำลังตัวเอง ผมเห็นมาเยอะ ถ้าหลงมาเล่นกับผมล่ะสบายทุกคน มีมากก็กลับช้า มีน้อยก็กลับเร็วหน่อย) หลัง ๆ พอผมเปลี่ยนวิธีเล่นเท่านั้นแหละ แทบจะผูกปีกินคู่ต่อสู้ทั้งปีไปเลย เอาเสต๊กมาแลกก็ไม่ยอม ค่อนไปทางได้มากกว่าเสีย ถึงขนาดที่เรียกได้ว่า ผมเล่นสนุ๊กเป็นอาชีพเสริมเลยทีเดียว แต่ความสุขกับความทุกข์นี่มันอยู่คู่กันจริง ๆ กำลังได้ตังค์สนุก ๆ อยู่ ความเสื่อมของสังขารก็มาก่อเรื่อง สายตาที่เคยดี อยู่ ๆ มันก็ยาวขึ้นมาดื้อ ๆ ส่งผลมากขนาดผมต้องยอมเลิกเล่นสนุ๊ก ทั้ง ๆ ที่พอมีรายได้ไปเลย
          สิ่งสำคัญที่ทำให้ผมยืนหยัดในวงการสนุ๊กมาอย่างยาวนานช่วงหลัง ๆ คือ คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุดในวงการ ถ้าคุณเป็นกระบี่มือหนึ่งของวงการ ชีวิตคุณจะเงียบเหงามาก หันไปทางไหนล้วนประสบแต่คู่ต่อสู้ที่มีฝีมือด้อยกว่าทั้งสิ้น หันไปทางไหนก็ไม่มีใครอยากเล่นด้วย ชีวิตขาดสีสันไปโดยปริยาย สักวันคุณอาจไม่อยากเป็นมือหนึ่งอีกต่อไป ขอย้อนกลับไปสู่วันคืนเก่า ๆ ที่มีเพื่อนอยู่ระดับเดียวกันเยอะ ๆ ดีกว่า การจะอยู่ให้รอด ขอเพียงให้คุณค่อนข้างรู้จักฝีมือการเล่นของตัวเองตามสภาพความเป็นจริง ห้ามมีอคติ หรือเข้าข้างตัวเอง แล้วค่อยไปเปรียบเทียบกับฝีมือของผู้ที่คุณจะต่อกรด้วย ถ้าวิเคราะห์แล้วสูสีกัน อย่าเพิ่งผลีผลามหลงไปสู้กับมัน ใช่ครับ การที่เราได้ต่อกรกับคนที่สูสีกับเราจะมีความมันส์เต็มพิกัด แต่ถ้าเกิดบังเอิญคนที่สูสี เป็นมือระดับค่อนข้างสูงของโต๊ะสนุ๊กนั้น การที่คุณเข้าไปเล่นกับเค้า สายตาทุกคู่จะจ้องมองแล้วคอยติดตามความคืบหน้าในเกมส์ ถ้าผลการต่อสู้ออกมาเป็นว่า คุณเล่นได้สูสี หรือหากยิ่งกว่านั้น คุณเกิดเล่นชนะเค้า คนที่จ้องดูอยู่เค้าจะคิดยังไง ขนาดมือระดับสูงคุณยังผ่าน แล้วมือรอง ๆ ลงไป ใครจะไปกล้าเล่นกับคุณ ทุกคนจะกลัวไม่กล้าเล่นกับคุณกันไปหมด ดังนั้นหลักการที่ถูกต้อง คือ คุณไม่จำเป็นต้องเก่งที่สุด แต่คุณต้องรู้ว่าตัวเองฝีมือขนาดไหน แล้วต้องดูคนอื่นให้ออก หาคนที่เล่นเก่งน้อยกว่าคุณให้เจอแล้วเล่นกับเค้า โดยต้องเล่นให้เค้ารู้ตัวช้าที่สุดว่า คุณเก่งกว่าเค้า (ผมมีคู่ต่อสู้หลายคนที่เล่นกันตั้งนานเค้ายังรู้สึกว่า เค้าเหนือกว่าผม เค้าต้องชนะผม แต่มันก็ไม่เป็นจริงซักที ผมหอบตังค์กลับบ้านทุกทีหลังเล่นเสร็จ) การเล่นของคุณจะค่อนไปทางมีความสุข น้อยครั้งที่จะแพ้กลับบ้าน คุณเห็นมั้ยครับ หลักการเล่นของผมเปลี่ยนไป แรกเริ่มเข้าสู่วงการสนุ๊กประพฤติตัวเป็นนักสู้ผู้พิชิต อยากเป็นนักสนุ๊กที่เก่งขึ้นมาอย่างเร็วที่สุด ท้าสู้แม้กระทั่งจ้าวยุทธภพ หรือกระบี่มือหนึ่งแห่งวงการ ผลเป็นไงครับ หมดตูดไปตามธรรมดาของสัตว์โลกนะสิ หลัง ๆ มานี่ หลักการเล่นของผมเปลี่ยนเป็นตรงกันข้ามเลยใช่มั้ยครับ สมัยก่อนเริ่มเล่นชนดะ เก่งมาจากไหนไม่หวั่น แล้วเป็นไง หมดตูดถาวร แทบหาวันได้ตังค์กลับบ้านไม่เจอเลย พอเปลี่ยนความคิดในการเล่น เพิ่มความแน่นอนเข้ามา เลือกคนเล่นที่ด้อยกว่า ผมคว้าชัยชนะกลับบ้านสม่ำเสมอ
          วกมาเรื่องไฮโลว์มั่ง จากประสบการณ์การเล่นที่คลุกคลีมา ตอนผมเริ่มเล่นไฮโลว์ใหม่ ๆ ผมชอบเป็นคนแทง บางวันได้ บางวันเสีย วันที่ได้บางวัน ถึงกับนึกว่าตัวเองนี่ฝีมือเข้าขั้นฟังไฮโลว์ได้แม่นอย่างตาเห็น แต่อนิจจา ไอ้ความแม่นมันไม่ได้อยู่กับผมทุกวัน ผมอาจดวงดีหลายวันติดต่อ เก็บเล็กผสมน้อย ได้ตังค์เป็นกอบเป็นกำ ก็ไม่เท่าไหร่หรอกครับ แค่หลายพันบาท อุตส่าห์เก็บมาตั้งหลายวัน วันดีคืนร้าย สิ่งที่เก็บหอมรอมริบมาหลายวัน ก็ลอยละลิ่วหายไปกับสายลม แถมยังมาดึงเอาตังค์ที่เก็บไว้ใช้ยามจำเป็นไปอีก มันน่าอนาจใจดีแท้ ผมเคยเล่นแพ้ถึงขั้นจำนำปืน 2 ครั้งสองครา ไม่รู้จะบากหน้าไปหาใคร ป่าป๊านั่นแหละครับ เป็นที่พึ่งของผม ครั้งที่ 1 จำนำเค้าไป 4,000 บาท ขอยืมป่าป๊าไปไถ่ทันทีในวันรุ่งขึ้น เก็บตังค์ทีเป็นชาติเลยกว่าจะใช้หนี้แกได้หมด ครั้งหลังจำนำ 3,000 บาท เริ่มรู้สึกอายแล้วก็ทุเรศตัวเอง ไปขอยืมตังค์แกไปใช้หนี้เอาปืนกลับมา คิดไว้ในใจว่า ต่อไปนี้จะไม่จำนำปืนอีกแล้ว ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้าย แล้วผมก็ทำตามนั้นได้จริง ๆ มีคนเค้าถามป่าป๊าผมว่า ทำไมถึงให้ผมเอาตังค์ไปไถ่ปืน แล้วไม่ห้ามผมไม่ให้ไปเล่นหล่ะ ป่าป๊าแกพูดตอบนิดเดียว "เดี๋ยวมันหมดตูดมันก็เลิกเองแหละ" ประโยคนี้ไม่จริงทั้งหมด จริง ๆ แล้ว ผมเลิกตั้งแต่ยังไม่หมดตูดแล้ว


อุปกรณ์โกงไฮโลว์















ต้องการดูรายละเอียดรูปภาพได้ที่ http://market.onlineoops.com/336446



ลูกน้ำเต้าปูปลา





















ต้องการดูรายละเอียดรูปภาพได้ที่ http://www.vigothailand.com/uppic/images/505_.jpg

          ป่าป๊าเป็นคนมีจิตวิทยาสูงมาก แกเกิดก่อนเราผาดโผนในยุทธจักรมาก่อนเรา มีหรือไม่รู้ว่า ไอ้ลูกชายปากยังไม่สิ้นกลิ่นเป๊ปซี่จะมาแน่กว่าแก แกรู้หมดว่า คนเล่นพนันที่กำลังบ้าคลั่งเล่นอยู่ ให้คุณไปรบกวนเชิญเทวดาลงมาเขียว ๆ มาห้ามมัน มันก็ไม่เลิก บางคนเล่นจนที่หมดเป็นแปลง ๆ มันยังไม่สนใจเลย ยังคงยิ้มระรื่นมาเล่นอย่างมีความสุขทั้งผัวทั้งเมีย ตื่นเช้าอาบน้ำแต่งตัวปะแป้งอย่างกับเด็กไปโรงเรียน ไหนได้ไปเข้าบ่อนป๊อกเด้ง เล่นเสียมันทุกวัน คนถามบอกหน้าชื่นตาบานว่า เพิ่งขายที่ไปแปลงนึง เนี่ยว่าจะขายอีกแปลงนึง จะได้เอาตังค์มาสู้กับมันให้มันส์หยดไปเลย คุณคงเดาจุดจบของนิยายทุเรศ ๆ เรื่องนี้ได้นะครับ แต่น่าเศร้าที่นิยายนี้มันเป็นเรื่องจริงเสียยิ่งกว่าจริง ในโลกนี้มีคนสูญเสียไปกับการพนันถึงขั้นบ้านแตกสาแหรกขาด หรือเสียสิ้นหมดแม้กระทั่งชีวิตก็ยังรักษามันเอาไว้ไม่ได้มากมายหลายชีวิต เราจะโทษว่ามันเป็นความผิดของใคร?
          ผมก็บังเอิญได้เข้ามาเป็นตัวเอกของเรื่อง คล้ายกับคนที่ขายที่เล่นนั่นเอง ส่วนของผมความเสียหายไม่รุนแรงมากนัก หมดแค่เงินที่จะเอามาใช้จ่ายประจำวัน แต่ก็น่าอนาถตัวเองพิลึก บางครั้งตังค์หมดถึงขนาดไม่มีตังค์กินข้าวตั้งแต่ต้นเดือน ต้องขอข้าวเค้ากินแก้หิวยังเคย เรื่องทุเรศเรื่องนึงของผมก็คือ ผมมีช่วงนึงในชีวิต ที่เล่นไฮโลว์แล้วเสียทั้งปี คนปรกติเล่นก็ต้องมีได้มีเสีย แต่ของผมปีนั้นไม่รู้มันชงอะไร หรือบังเอิญนั่งทับ...ของพญานาคเข้าให้ก็ไม่รู้ เข้าไปเล่นมีแต่เสียกับเสีย ไม่ว่าจะเล่นได้ตั้งแต่เริ่มเข้าไปเล่นทีแรก หรือเล่นเสียแต่แรกก็ตาม สุดท้ายเป็นต้องหมดตูดกลับบ้าน ไม่มีทางเป็นอย่างอื่น พอเสียกลับบ้านทีนึง กำลังใจเรี่ยวแรงมันถดถอยสิ้นดี ทุกคนที่เคยเล่นเสียจะรู้ความรู้สึกนี้ดี มันห่อแห่ หมดอาลัยตายอยาก ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากทำอะไรทั้งนั้น ทีนี้คุณลองนึกดูสิ มีเล่นทีไรกลับบ้านต้องหมดตูดจะมีความรู้สึกยังไง ผมถึงขนาดต้องทำพิธีล้างมือในอ่างอลูมิเนียม (อ่างทองคำไม่มี ถ้าเกิดมีคงได้เอาไปตึ๊งเรียบร้อยแล้ว) เรียนแบบคนอื่นที่เค้าใช้ล้างมือในอ่างทองคำ แต่ก็เท่านั้นแหละ ความอยากเลิกมันน้อยกว่าความอยากเล่น พอไปเห็นวงเล่น หรือบางทีไม่เห็นวง ผีพนันมันคอยกระทุ้งให้คิดถึงวงเล่นอยากจะหาวงเล่นให้ได้ ช่วงเล่นชุก ๆ แม้จะหมดทุกวันก็ยังต้องหาที่เล่นให้ได้ ไม่งั๊นนอนไม่หลับ พอเล่นเสร็จอย่างที่คุณรู้ตอนจบเป็นธรรมดาเลยในปีนั้นทั้งปี หมดตูด กลับบ้านทีปลงที คิดมาดมั่นว่าต้องเลิกเล่นให้ได้ ไม่อย่างนั้นชีวิตไอ้เรืองคงเหงาหงอยสร้อยเศร้าตลอดแน่ การพนันนี่แปลก มันไม่ได้มีสารเสพติดเข้ามาเกี่ยวข้องน่าจะเลิกไม่ยาก แต่กับผม มันดันเลิกยากน่าดู ผมมาคิดว่า ถ้าผมยังคงอยู่ในสิ่งแวดล้อมเดิม ๆ คนรู้จัก เพื่อนฝูงกลุ่มเดิม ๆ ที่เคยเล่นกันมา ท่าทางมันคงจะเลิกยาก หรือไม่มีทางเลิกเลย ผมทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาดีแล้ว เลยตกลงใจว่า คงถึงเวลาที่จะต้องแยกย้ายกันหลบหนีตัวใครตัวมันกันซักที ต้องจรลีไปอยู่ที่อื่นมั่ง ไม่งั้นอย่าหวังที่จะเงยหน้าอ้าปากได้ การย้ายที่อยู่เพื่อตัดปัจจัยเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องเพื่อนฝูง ที่คอยกระตุ้นให้เกิดความอยากเล่น เป็นวิธีการที่ดีวิธีนึง สำหรับคนต้องการเลิกจากสิ่งที่ตัวเองติดอยู่ เช่น ติดการพนัน ติดเหล้า ติดบุหรี่ แต่ก็ไม่ใช่จะได้ผลทันทีร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ใจที่อยากเลิกของคนที่ติดสิ่งเหล่านั้นอยู่สำคัญที่สุด ถ้าใจไม่มุ่งมั่นอยากเลิกจากสิ่งที่ติดอยู่จริง ๆ จนกระทั่งวันสุดท้ายของชีวิต เราอาจจะไม่สามารถเลิกมันได้จริง ๆ (ป่าป๊าผมสูบบุหรี่มานาน แกอยากจะเลิก ลองอดดูหลายครั้ง ก็ย้อนกลับไปสูบใหม่ จนกระทั่งแกเสียไปแกก็ยังไม่เลิกสูบบุหรี่เลย สำหรับตัวผม ติดบุหรี่เหมือนกัน ผมบอกแล้วเด็กผู้ชาย โอกาสทำอะไรที่มันฝืนกฎกติกาสังคมรู้สึกว่าจะถนัด ผมเริ่มสูบบุหรี่กันตั้งแต่ ม.3 ก็ช่วงเดียวกับที่หัดเข้าไปเล่นสนุ๊กนั่นแหละ แรก ๆ สูบมันก็เหม็นแหละ พอสูบไปนานเข้าชักติด สูบบุหรี่นี่มันจะติดความเคยชิน เช้าขึ้นมาต้องจุดก่อนเลย 1 มวน เข้าห้องน้ำ 1 มวน หลังมื้อเช้า 1 มวน ฯลฯ แล้วมันก็จะมีกิจกรรมประกอบการสูบบุหรี่อีกมากมายตลอดทั้งวัน ไอ้กิจกรรมต่าง ๆ ที่มันประกอบการสูบบุหรี่นี่แหละ มันสร้างความคุ้นเคยทำให้การเลิกสูบบุหรี่ทำได้ยาก แล้วบุหรี่มันก็เป็นเพื่อนที่แน่นอนที่สุด เครียดคุณก็สูบ สบายใจคุณก็สูบ มันอยู่กับคุณตลอดเวลา ถ้าคุณยังอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบเดิม ๆ แทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเลิกบุหรี่ ส่วนของผมนั้น จังหวะที่ผมเข้าผ่าตัดขา 2 ครั้ง สร้างโอกาสเลิกบุหรี่ให้กับผม ครั้งแรกตอนอายุ 25 ขวบ เข้าผ่าตัดต่อเอ็นหัวเข่า ต้องอยู่โรงพยาบาลหลายวัน โรงพยาบาลเค้าไม่ให้สูบบุหร่ี่ในห้องคนป่วย แรก ๆ ผมก็แอบสูบแหละ แต่พอเห็นสายตากับคำพูดของพยาบาลที่เค้าไม่อยากให้เราสูบบุหรี่ในห้องผู้ป่วย ก็เลยเกรงใจเค้า ยอมหยุดไม่สูบขณะอยู่โรงพยาบาล ตอนนั้นก็เลยถือโอกาสเลิกสูบบุหรี่เป็นครั้งแรก เลิกได้หลายปีพอดู พอสอบเลื่อนชั้นเป็นนายร้อยตำรวจได้ เข้าอบรม 6 เดือน เห็นใครต่อใครสูบกันฟุ้งตลบไปหมด ชักเปรี้ยวปาก หันกลับไปสูบอีกจนได้ สูบต่อไปหลายปี มาเจ็บเข่าต้องผ่ารอบสอง เลยถือเป็นจังหวะเลิกบุหรี่ครั้งที่ 2 เลิกได้ถาวรมาจนปัจจุบันนี้
          ผมย้ายตัวเองหนีวงพนันไปอยู่หุบรักโพรงมะเดื่อ ฤทธิ์ของการติดการพนันมันหดหายไปจากตัวผมได้มากพอดู ผมหยุดเล่นได้นานพอสมควร เคยย้อนกลับเข้าไปเล่นอีกครั้ง 2 ครั้ง หมดตูดเหมือนเช่นเคย แต่ก็ต้องถือว่า การย้ายที่อยู่ไม่ให้แสวงหาที่เล่นได้ง่าย ๆ ไม่อยู่กับแวดวงเพื่อนเก่า ๆ ช่วยให้ความเสียหายจากการเล่นห่างไป พอไม่ค่อยได้เล่นนานเข้า ความคิดอยากเล่นค่อย ๆ จางหายไป พอเวลาผ่านไปนานเข้า ผมก็หยุดเล่นได้ ผมหยุดเล่นไปนานทีเดียว ยังขยาดกับการหมดตูดทั้งปีไม่หาย ช่วงหลัง ๆ มา ผมมีโอกาสเล่นอีก คราวนี้ได้ศึกษาการเป็นเจ้ามือการพนัน ศึกษาวิธีเล่นโกงจากพวกที่เคยเดินสายเล่นบ้าง จากร้านค้าอุปกรณ์การพนันบ้าง การย้อนกลับสู่วงการของผมคราวนี้มาในมาดใหม่ คราวนี้มาในมาดเจ้ามือ การเป็นเจ้ามือแม้จะไม่ได้ทุกครั้ง บางครั้งยังเสียอีก มันก็เป็นธรรมดา แต่อย่างน้อย ๆ ถ้าเราเล่นอย่างระมัดระวังก็จะไม่ถูกใครเค้าโกง กลับเข้ามาคลุกคลีวงการอีกนานพอควร ได้มั่งเสียมั่ง รอบหลังนี้ค่อนไปทางได้มากกว่าเสีย แต่ก็ได้ไม่มาก ขนาดไปหาลูกไฮโลว์โกง มีหน้าม้าพร้อมเสร็จสรรพเข้าไปเล่นสี่ครั้ง สามครั้งเล่นไม่ได้ตังค์ ครั้งที่ 4 เล่นเสียตังค์อีกต่างหาก มันทำให้ผมต้องฉุกคิดอย่างหนักทีเดียวว่า "โอ้โห! นี่ขนาดเรามาโกงเค้าขนาดนี้เรายังไม่ได้ตังค์ ถ้าทางดวงมันจะไม่ให้เรามาทางนี้เสียแล้วล่ะมั้ง" ผมท้อพอสมควร แต่ก็ยังคงเล่นอยู่ มาช่วงหลังก่อนจะเลิกจากวงการเล่นไพ่ไฮโลว์ ผมเล่นได้มั่งเสียมั่ง ไม่ค่อยแน่นอน แม้มันจะไม่เหมือนช่วงที่ผมเล่นเสียตลอด มันก็ทำให้คิดได้ว่า การเสียเวลาหลงเล่นการพนันอยู่อย่างนี้ไม่น่าจะดี ครั้งสุดท้ายผมเป็นเจ้ามือไฮโลว์ ลูกค้าแทงถูกยังกะตาเห็น เจ้ามือแทบไม่ได้จับตังค์เลย ตังค์ 20,000 บาท หายแว๊บไปกับตา สรุปวันนั้นผมต้องออกไปกดตังค์จากตู้เอทีเอ็มอีก 20,000 บาท คิดว่าสู้ไม่ได้ต้องเลิกแล้ว ทู่ซี้เล่นตังค์ที่เก็บมาเป็นเวลาหลายปีอาจมีอันอันตรธานแน่ พอเข้าไปเขย่าอีกรอบ ไม่นานเท่าไหร่ 20,000 บาท สุดท้ายก็เกลี้ยง ต้องมาตัดสินใจอีกทีว่า อยากจะเอา 40,000 บาท คืนมั้ย คิด ๆ ชักขยาด ลูกค้าแทงอย่างกับตาเห็น ขืนสู้ต่อแม้ชีวิตก็ไม่เหลือ ตัดสินใจยอมแพ้เลิกเล่นเด็ดขาดเลยดีกว่า แล้วไฟท์นั้นเป็นไฟท์สุดท้ายที่ผมเล่นไฮโลว์จริง ๆ ผมเกิดความเอือมระอา หยุดการเล่นทุกสิ่งทุกอย่างนับแต่นั้นมาจนถึงบัดนี้
          ในช่วงที่ผมเล่นมาก ๆ ผมเล่นคละเคล้ากันไปหมด ที่ผมเคยบอกว่า ผมเล่นกอล์ฟ เล่นไก่ชน เล่นมวยด้วย ก็แล้วแต่จังหวะว่า ช่วงนั้นเพื่อนฝูงจะชวนกันไปทางไหน ผมเล่นกอล์ฟได้ผลลัพธ์คล้ายเวลาผมเล่นสนุ๊กเกอร์ คือ มักจะได้ตังค์กลับบ้านเสียเป็นส่วนมาก แต่คู่ต่อสู้ของผมก็ไม่ใช่จะยอมให้เราชนะได้ง่าย ๆ พอเราเล่นชนะมากเข้า ก่อนจะเล่นกันเค้าก็ต้องให้เราต่อมากขึ้น การจะเล่นให้ชนะยากเย็นขึ้น แถมบางช่วงฝีมือไม่สม่ำเสมอ ผมเคยคิดไว้ว่า ถ้าฝึกหนัก ๆ กว่าคนอื่น จะทำให้ตีได้ดีกว่าคนอื่นมาก ๆ แน่ จริง ๆ มันไม่เป็นอย่างนั้นเสมอไป ยิ่งซ้อมหนักกลับเล่นแพ้ ทำเอาต๊อแต๊เหมือนกัน หลัง ๆ มามือไม่เสมอ ตีดีวันนึงตีเสียวันนึง ลักษณะคล้ายทำนองสนุ๊กเกอร์นั่นแหละ ถ้าเราเล่นได้มั่งเสียมั่งอย่างนี้ คนที่ได้จนสะดือจุ่นสะดือปลิ้นหลีกไม่พ้นเป็นเจ้าของสนาม ผมมาคิดว่า แล้วผมจะมานั่งสนับสนุนให้เค้ารวยกันทำไม การเล่นกอล์ฟมีค่าโสหุ้ยมากพอสมควร ก่อนจะลงเล่นเสียค่าสนาม ค่าแคดดี้ ค่าน้ำ ค่าอาหาร ประมาณ 1,000 บาท ไปก่อนแล้ว แม้เราเล่นได้ก็จริงถ้าได้ไม่เกิน 1,000 บาท หักค่าโสหุ้ยการเข้าเล่น เราก็ยังต้องขาดทุนอีกนิดหน่อย เล่นได้เกิน 1,000 บาทอีกซัก 300 บาท เราก็จะเหลือกำไรตรง 300 บาท ซึ่งเท่ากับเล่นได้นิดหน่อยเท่านั้นเอง แต่ถ้าเราเสียล่ะ เราจะเสียตังค์ที่เล่นแพ้ไปในเกมส์รวมเข้ากับค่าเข้าเล่นทั้งหมด ถือว่าเสียค่าใช้จ่ายมากทีเดียว การที่เราเล่นได้มั่งเสียมั่งแบบนี้ วันที่ได้ก็ได้ไม่เต็ม ถูกหักค่าโสหุ้ยเข้าเล่นไปซะเยอะ วันเสียก็ต้องบวกค่าโสหุ้ยเข้าเล่นไปอีก กลายเป็นว่าเราจะเสียเยอะมาก คิดสะระตะแล้ว หากจะเล่นกอล์ฟเป็นอาชีพเสริมน่าจะไม่คุ้มกับการเสียเวลา และการทุ่มเท เอาเวลาวัน ๆ ทิ้งไปกับการเล่นกอล์ฟแล้วไม่ได้อะไร ดูท่าทางฝีมือจะพัฒนาขึ้นไปอีกก็แค่นิดหน่อย ไม่คุ้มที่จะเสียเวลาด้วย ผมวางถุงกอล์ฟนิ่งไม่ได้หยิบมานานหลายปีแล้ว จนเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่ได้ย้อนกลับไปเล่นอีกเลย


คนตีกอล์ฟ















ต้องการดูรายละเอียดรูปภาพได้ที่ https://sites.google.com/site/kilakxlfkjj/ru-him-wakar-len-kxlf-di-xyangri
          สำหรับวงการมวยไทยนั้น ผมเข้าไปคลุกคลีจากการได้ฟังเพื่อนฝูงชักชวนไปเล่น เพื่อนฝูงบอกว่า รู้จักพวกเล่นมวยล้ม (การชกมวย แต่ละฝ่ายต้องการชกให้ชนะคู่ต่อสู้ ถ้าทั้ง 2 ฝ่าย รู้กัน ตกลงกันล่วงหน้าว่า เมื่อชกกัน จะให้ฝ่ายหนึ่งชกไม่เต็มที่แกล้งให้ตัวเองแพ้ การพนันใด ๆ ก็ตาม ถ้าเรารู้ผลแพ้ชนะล่วงหน้า เราสามารถเอามันไปเล่นให้ได้ตังค์มาก ๆ ได้ทีเดียว เช่น ฝ่ายน้ำเงินตกลงกับฝ่ายแดงว่า ฝ่ายน้ำเงินจะชกให้แพ้ คนที่เป็นพวกเดียวกับฝ่ายน้ำเงิน ก็จะออกไปจับนอกถือหางเล่นข้างฝ่ายตรงข้าม คือ ฝ่ายแดงที่จะชนะแน่ ๆ ถ้าการชกเป็นไปอย่างแนบเนียน หลอกตากรรมการกับคนดูทั่วไปได้ ไม่มีใครระแคะระคาย เมื่อฝ่ายแดงชนะ พวกของฝ่ายน้ำเงินที่ไปจับนอกมา ก็จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำทีเดียว ผมเข้าไปคลุกวงการมวยไทยก็ด้วยเหตุนี้แหละ มีเพื่อนมาบอกว่ารู้จักพวกล้มมวย ผมก็ลองไปเล่นกับเค้า เค้าบอกว่า วันนี้มวยคู่นี้คนนี้จะล้มให้ไปเล่นฝ่ายตรงข้ามได้เลย ถ้าเราได้ยินอย่างนี้แล้วเราเชื่อตามนั้น โดยไม่คิดระแวงอะไรบ้างเลย เราจะต้องคิดว่า เมื่อเราเล่นฝ่ายตรงข้าม ต้องได้ตังค์แน่ ๆ แต่ในความเป็นจริง เราไม่รู้หรอกว่า เพื่อนของเราไปได้ข่าวการล้มมวยมาจริงหรือเปล่า เวลาเอาข่าวมาบอกเรา อาจจะกุข่าวขึ้นมาเองก็ได้ เวลาเรามาเล่นแล้วเป็นไปตามที่เค้าแนะนำ เราก็จะได้ตังค์ เค้าก็น่าจะได้ด้วย เพราะอุตส่าห์เอาข่าวดีมาบอก โอกาสหน้ายิ่งหลอกเราได้ถนัดกว่านี้ ในกรณีผม ผมถูกหลอกมาแต่ต้น เพื่อนไม่ได้รู้จักพวกล้มมวยจริงหรอก คิดเอาเองแล้วบอกผมว่า ฝ่ายนี้จะล้มมวย ให้เล่นฝั่งตรงข้ามได้เลย ผมเตรียมตังค์ไปเท่าไหร่ เล่นหมดเลยทุกราคา ผลปรากฏว่า ฝั่งที่บอกว่าล้มมวยเตะเอาเตะเอา ไอ้ฝ่ายที่บอกว่าจะชนะเอียงไปเอียงมารับพายุเท้าแทบไม่ทัน คุณเห็นอย่างนี้คุณกลัวมั้ย ไม่ ไม่กลัวเลย เพราะเรามั่นใจว่า เดี๋ยวไอ้คนเตะเค้าเอียงไปเอียงมา ก็จะล้มมวยลงไปนอนแล้ว ระฆังยก 5 ดังขึ้น อ้าวไหงตกลงกันเป็นมั่นเหมาะ จะให้นักมวยที่เตะเค้าเอ๊าเตะเค้าเอาลงไปนอนถูกนับจับแพ้ไป กลายเป็นผมที่เป็นคนดูต้องล้มแทน (แบบนี้เค้าเรียกล้มหมอนนอนเสื่อ) ไม่ใช่นักมวยล้ม นักมวยที่เค้าบอกว่าจะล้ม เดินหน้าเตะฝ่ายที่บอกว่าจะชนะตั้งแต่ยก 1 ถึง ยก 5 จนชนะคะแนนไปอย่างใสสะอาด ไม่มีการล้มมวยอะไรทั้งสิ้น มีแต่ตัวเรานี่แหละต้องล้มหมอนนอนเสื่อแทน เอาตังค์เกือบหมื่นมาถวายเค้าซะเกลี้ยง ผมกับเพื่อนกลุ่มนี้ห่างหายกันไปตั้งแต่บัดนั้น ขืนผมยังคบกับพวกมันอยู่ คงจะต้องล้มลงไปอยู่ในหลุมแล้วหล่ะ

คนชกมวย














ต้องการดูรายละเอียดรูปภาพได้ที่ https://pantip.com/topic/30830266

          ผมมาเจอเซียนมวยตัวจริงเสียงจริงเอาตอนหลัง คน ๆ นี้เป็นข้าราชการคนหนึ่ง (ไม่บอกรายละเอียด คิดว่าเค้าคงไม่อยากให้ใครรู้) ปัจจุบันน่าจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว เพราะผมรู้จักแกมาประมาณสิบปี ตอนนั้นแกก็ 50 ขวบเศษแล้ว ตอนที่เขายังรับราชการอยู่ ตอนเช้าไปทำงาน ตกเย็น แต่งชุดลำลอง ซื้อหนังสือมวย เรียกแท็กซี่เดินทางไปสนามมวย แกไปเพียง 2 สนามใหญ่เท่านั้น คือ สนามมวยราชดำเนิน กับสนามมวยลุมพินี ทั้งสองสนามนี้จะจัดมวยสลับวันกัน ใน 1 อาทิตย์ จะมีมวยทุกวัน เมื่อแกเดินทางไปถึงแกจะซื้อกระดาษโพยแนะนำมวยที่ก๊อปปี้ขายกันในสนามมวยอีกแผ่น เป็นอันข้อมูลสำหรับการเล่นของแกครบแล้ว ถึงเวลาเล่น แกก็จะเล่นไปตามปรกติ เล่นไปได้ประมาณ 5 คู่ แกจะลุกกลับบ้านแล้ว (คนที่เล่น 4 - 5 คู่แล้วกลับ แสดงว่า ได้ตังค์กลับบ้านสบายไปแล้ว คนที่อยู่ดูตั้งแต่คู่แรกไปจนคู่สุดท้าย ส่วนใหญ่เป็นพวกเสีย ต้องการตามทุนคืน) ผมมีโอกาสพบกับข้าราชการคนดังกล่าว 2 - 3 ครั้ง เห็นเค้าเล่นในรูปแบบเดิมทุกครั้ง ไม่เคยเห็นแกทู่ซี้อยู่เกินคู่ 5 เลย เล่นได้ปุ๊บ แกกลับปั๊บ มาตรฐานของแกแน่นอนจริง ๆ ผมเคยถามแกเกี่ยวกับรายได้ แกบอกว่า เงินเดือนแกไม่ต้องใช้เลย แกเอาเข้าสหกรณ์ทั้งหมด เงินที่เอามาใช้จ่ายในครอบครัว และส่วนตัว เอามาจากการเล่นมวยนี่แหละ แหมผมนี่ใฝ่ฝันอยากเป็นอย่างแกมั่งจัง
          ผมไปฝึกเล่นพนันมวยไทย หวังที่จะเล่นได้อย่างข้าราชการคนที่บอก ไม่ง่ายเลยครับ หากใครคิดว่าจะทำอย่างแกได้ง่าย คุณอย่าฝันหวาน ผมลองดูแล้ว เราไม่เคยคลุกคลีวงการมวย เราไม่รู้จักมวยซักตัว ประวัติการชก สถิติ เราไม่เคยรู้ ในขณะข้าราชการคนนั้นรู้ดีหมด แกเล่นมานานจนรู้มวยทุกตัว แล้วเวลาเข้าไปในสนามมวย ข้าราชการคนนั้นรู้จักคนเล่นในนั้นแทบทุกคน คนหน้าใหม่เข้ามาก็รู้ เพราะแกนั่งอยู่ตรงที่เดิมทุกวัน ระหว่างเวลาเล่น เราเล่นเดิมพันกับนักเล่นคนไหน เราต้องจดจำรูปร่างหน้าตาเครื่องแต่งกายของเขา เพื่อจะจำได้ เวลามวยชนะแพ้จะได้จ่ายตังค์ถูก ข้าราชการคนนั้นเล่นกับทุกคนได้อย่างสบาย รู้จักทุกคน สามารถออกตัวกับคนเล่นที่รู้จักกันห่างไปเกือบร้อยเมตร ยกสัญญานมือบอกกันออกตัวซื้อขายราคากันเรียบร้อย ไอ้เราเล่นยังต้องมานั่งจำรูปร่างหน้าตาคนกันไม่จบ แกออกตัวได้กำไรแน่นอนไปแล้ว การจะทำให้ได้อย่างแกไม่ง่าย ผมรู้จักคนเล่นมวยอีกหลายคน นักเล่นแต่ละคน ถ้าคุยกันส่วนใหญ่จะมั่นใจตัวเองสูงกว่าความเป็นจริงเสมอ (ถ้าเราคิดว่า ไปเล่นแล้วเสียแหง เราคงอยู่บ้านแน่) แต่ทุกคนไม่มีใครมีความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับมวยดีเท่าข้าราชการคนนั้น เค้าศึกษานักมวยทุกตัวมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน รู้รายละเอียดทุกตัว ประวัติ สถิติ ได้เปรียบคนเล่นที่ไม่รู้พอสมควร แล้วเรื่องที่แกรู้จักคนในสนามมวยแทบทุกคน คนเล่นอยู่ไกล ๆ แกยังเล่นออกตัวได้ เพียงยกมือส่งสัญานไปก็เรียบร้อยแล้ว ได้เปรียบเราซึ่งต้องเข้าไปทำความคุ้นเคยกับสนาม คนดู คนเล่น ไหนจะกลัวเล่นแล้วจะได้ตังค์หรือเปล่า คนที่เล่นด้วยจะหนีมั้ยเราก็แย่แล้ว ข้าราชการคนนั้นไม่ต้องเจอปัญหานี้เลย แกรู้จักหมดทุกคน เป็นไงครับ ข้อได้เปรียบของแกแต่ละข้อ ได้เปรียบเรามหาศาาล ต้องเก็บเกี่ยวเอาจากประสบการณ์นานวัน ไม่สามารถศึกษาได้ในเร็ววัน การจะเรียนแบบ จึงยากสุด ๆ สุดท้ายผมก็ยอมเลิกคิดที่จะเรียนแบบเพราะหมดไปอีกหลายตังค์ ไม่ได้ความ
          อีกวงการหนึ่งที่ผมบังเอิญเข้าไปคลุกคลีพักนึง คือ วงการไก่ชน วงการนี้เป็นวงการที่มีคนสนใจเป็นจำนวนมาก ถ้าคุณเคยนั่งรถผ่านไปตามบ้านเรือนแถว ๆ ชนบท มองเข้าไปรอบบริเวณบ้านชาวบ้าน จะมีโอกาสเห็นสุ่มไก่ครอบไก่ชนเอาไว้ข้างในบ่อย ๆ กลุ่มผู้นิยมชนไก่มีกระจายกันทั่วประเทศ คนเล่นไก่สรรหาไก่กันอย่างจริงจัง ได้ข่าวที่ไหนไก่ดีไก่เก่ง พวกเดินทางไปหาซื้อกันถึงที่ พรรคพวกผมแสวงหาไก่เก่งไปถึงเชียงราย เชียงใหม่ ยอมซื้อกลับบ้านด้วยราคาแพง ๆ ไก่ลูกเจี๊ยบยังกล้าซื้อกันด้วยราคา 500 ถึง 1,000 บาท ไก่ชนรุ่นหนุ่มพร้อมตีถ้าตัวไหนแววดี ยิ่งเคยตีชนะมาด้วยแล้ว อาจยอมควักจ่ายในราคาหลายพัน หรืออาจถึงหลักหมื่นบาท ทำไมเค้าถึงกล้าลงทุนด้วยเงินมากขนาดนั้น ก็เพราะต้องการอาวุธชั้นเลิศมาเก็บไว้ต่อสู้กับคนอื่นนั่นเอง (การพนันไก่ชนนั้น อาจเดิมพันราคาสูงถึงหลักหมื่นหลักแสน ทุ่มเทกำลังกาย กำลังใจ กำลังทรัพย์ไม่ใช่น้อย ออกไปต่อสู้ครั้งหนึ่งต้องหวังชนะให้มากที่สุด เพื่อให้คุ้มกับสิ่งที่ลงไป เตรียมการมาตั้งนานแล้วออกไปแพ้กลับมาก็หมดท่าสิครับ) เท่าที่สังเกต การดูแลรักษาไก่ ฟิตซ้อมจนสามารถออกไปสู้ศึก ต้องใช้ความรู้ความสามารถมาก เสียตังค์เสียเวลาไม่ใช่น้อยกว่าไก่จะได้ออกไปโลดเต้นในสังเวียน เริ่มกันตั้งแต่แสวงหาไก่เก่ง ใครได้ข่าวที่ไหนมีไก่เก่ง เดินทางไปขอซื้อด้วยสนนราคาค่อนข้างแพง ไก่เอาไว้กินตัวไม่กี่ร้อย ไก่ที่จะเอาไปชนตัวเป็นพันเป็นหมื่น แล้วการที่คุณจะไปขอซื้อเค้าก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอีก ต้องขอซื้อดี ๆ พูดถูกคอกันเค้าอาจยอมขายมาให้เล่น หากพูดไม่ถูกคอ หรือเจ้าของรักไก่ของเค้ามาก อาจกลับบ้านมือเปล่าเสียเที่ยวกันไปทีเดียว ทีนี้เกิดซื้อได้ คุณจะเล่นไก่ต้องมีไก่ออกไปชนบ่อย ๆ มีเพียงตัว 2 ตัว คุณจะไม่สามารถตีต่อเนื่องได้ เพราะไก่ตีครั้งหนึ่ง กว่าจะพักฟื้นจนตีครั้งใหม่ได้ต้องใช้เวลาเป็นเดือน ๆ สต็อกไก่ชนของคุณจะออกได้บ่อย ๆ ก็ต้องมีหลายตัว พอมีหลายตัวก็มามีปัญหาเรื่องสถานที่เลี้ยง ค่าอุปกรณ์ฟิตตัวไก่ ค่าอาหารยารักษาโรค แต่ละอย่างกะตังค์ทั้งนั้น เท่านั้นยังไม่พอ คุณต้องเลี้ยงดูพวกเค้าอย่างกับลูก ผิดพลาดนิดหน่อยอาจต้องเลื่อนกำหนดการตีออกไปนานเป็นเดือน ไม่มีอะไรขัดใจชุมชนคนรักไก่เท่าไก่ฟิตตัวกำลังจะตีได้ ต้องมาเจ็บป่วย เลื่อนกำหนดการตีออกไปอีกแล้ว กิจวัตรประจำวันที่ต้องทำ แต่เช้าต้องเอาไก่ชนมาอาบน้ำ ประคบร้อน (เอาผ้าชุบน้ำมาอังแผ่นดินเผาที่วางเผาอยู่ในเตาให้ร้อน นวดเนื้อตัว หน้าตาไก่ โดยอาบขมิ้นให้หนังหนาหนังทนไปด้วยในตัว พอเสร็จกระบวนการขัดสีฉวีวรรณ ก็ต้องเอาไก่ไปกราดแดด เอาสุ่มครอบไก่ไว้กลางแดดเปรี้ยง ๆ เพื่อให้ไก่ได้เผาผลาญอาหารในร่างกาย อดทนต่อความร้อน ไก่จะหอบเหมือนได้ออกกำลังกายทีเดียว แล้วยังมีวิธีทำให้ไก่บินเก่งอีก เค้าทำโดยวิธีโยนหลุม (ทำสถานที่ล้อมตัวไก่สูงระดับเอว หรือหน้าอกคนเลี้ยง โยนไก่ลงไป ไก่จะบินขึ้นบินลงโดยใช้กำลังตัวเอง) โยนหลาย ๆ เที่ยว พอซ้อมแล้วต้องพัก จะซ้อมหนักมากก็ไม่ได้ เกิดไก่เจ็บจะไม่ได้ตีอีกนาน แล้วยังมีอีกหลายวิธีบางทีเหมือนการฝึกซ้อมของคนเลย มีเครื่องวิ่งอยู่กับที่่ให้วิ่ง ให้วิ่งสุ่ม (เอาไก่ที่จะตีครอบสุ่มไว้ภายในสถานที่กั้นใหญ่ ๆ อีกทีหนึ่ง จับไก่ชนอีกตัวมาปล่อยไว้ด้านนอกสุ่ม ไก่จะเข้ามาใกล้กันมากมีเพียงสุ่มกั้นไว้ ธรรมดาของไก่ชนถ้า 2 ฝ่าย มาเจอกันเป็นต้องตีกันให้รู้เรื่องไปข้าง มันก็จะทำท่าตีกันโดยมีสุ่มกั้นนั่นแหละ ตีไม่ได้โดนกันหรอก แต่ก็ยังตีกันอยู่นั่น พอตีออกแรงกันยังไม่สะใจ วิ่งไล่หาทางจะเข้ามาตีกันให้ได้ ผมก็ไม่รู้ทำไมมันไม่เปิดสุ่มขึ้นมาตีกันให้รู้แล้วรู้รอด ทำท่าตีกันโดยมีสุ่มกั้นอยู่นั่นแหละ ไม่เห็นโดนกันซักที อย่าชะล่าใจไป ไก่พวกนี้บางทีปล่อยให้อยู่ด้วยกันเข้าถึงตัวกันได้ตีกันม่องเท่งไปข้างนึงเลยก็มี การวิ่งสุ่มแบบนี้ ไก่จะได้ออกกำลังโดยที่เจ้าของแทบไม่ต้องยุ่งกับมันเลย ไก่จะได้ทั้งกำลังขา ความอึด ต้องระวังก็เพียงอย่าให้เจ็บแค่นั้น แล้วอีกอย่างที่คล้ายวิธีการวิ่งสุ่ม มีวัตถุประสงค์คล้ายกันให้ไก่มีกำลังขากับความอึด เค้าจะเอาวัสดุเป็นไม้ เป็นเหล็ก มาต่อลักษณะกล่องสี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาวประมาณ 2 เมตร ความกว้างเอาให้เหมาะกับสถานที่กับตัวไก่ 2 กรง เอาตาข่ายไนล่อน หรือพลาสติกมาล้อมทุกด้านเว้นด้านล่างที่จะวางพื้นจะไม่กั้นอะไร เพื่อใช้เป็นช่องทางที่จะนำไก่เข้ากรง เวลาจะให้ไก่ออกกำลัง ก็เอาไก่มาใส่กรงทั้ง 2 กรง กรงละตัว กรงนี้ต้องตั้งไว้กลางแดด วางคู่กันขนานไปตามยาว เมื่อไก่ 2 ตัว เห็นกันจะวิ่งเข้าใส่กันเหมือนวิ่งสุ่มนั่นแหละ ได้ออกกำลังโดยที่เราไม่ต้องไปยุ่งกับมัน ก็แล้วแต่ว่าเราจะเลือกวิธีการไหนให้ไก่ได้ออกกำลัง ซึ่งจำเป็นมาก หากไก่ฟิตซ้อมไม่ดี กำลังไม่อยู่ตัว เข้าไปตีจำนวนอันมาก ๆ จะทานไม่ไหว พ่ายแพ้เสียหายทั้งเงินทั้งเวลาที่ทุ่มเทให้ ไก่ชนที่พร้อมออกรบจะมีสีสันลำตัวหน้าตาแดงแจ๊ด บ่งบอกถึงความสมบูรณ์ได้ดีที่สุด ๆ ถ้าหน้าตาซีด ๆ เป็นไก่อมโรค แสดงว่าต้องมีปัญหาอะไรกับตัวไก่บางอย่าง ถ้าคนเลี้ยงแก้ไม่ตก ฝืนเอาออกตี โอกาสหมดตูดมีมากถึงมากที่สุด คนเล่นเห็นไก่หน้าตาซีด ๆ ก็ไม่อยากเล่นฝ่ายนี้แล้ว เมื่อเรารู้เบื้องหลังการถ่ายทำแบบนี้แล้ว ถ้าจะโดดลงมาเล่นไก่ชน คิดให้ดีว่าตัวเองมีใจรักชอบทางนี้ มีเวลาว่างพอหรือเปล่า เราต้องคลุกกับมันอย่างจริงจังไปอีกนานจนประสบการณ์สอนเราเองว่า จะทำรายได้ยังไงได้บ้าง ถ้าเราลงไปแล้วเลิกกลางคัน เวลาที่เสียไปไม่ใช่น้อย ถ้าคุณไม่ถือสา ถือว่าเป็นบทเรียนชีวิตบทหนึ่งที่เราเลือกเรียน มันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ให้ระวังไว้หน่อย วงการนี้มันคือวงการพนัน ความโลภทำให้คนหมดตูดมามาก พยายามเล่นเพื่อศึกษาหาลู่ทางทำมาหากิน หรือเป็นงานอดิเรก หรืออาชีพเสริมก็ได้ อย่าเน้นไปในเรื่องพนัน ผมเห็นมาเยอะ คนเล่นพนันที่เก่ง ๆ เล่นจนตั้งตัวมีน้อย ในชีวิตคุณจะเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้นแหละ คนที่คุณยังเห็นว่าเล่นอยู่แต่ละคนหนี้สินรุงรังซะเป็นส่วนใหญ่ ถ้าคุณจะเข้าสู่วงการเพื่อเล่นอย่างเดียว หวังจะเป็นเซียนไก่ตัวยง หยุดคิดซักหน่อยดีกว่า ในการเดิมพันไก่ชนนั้น เค้าเดิมพันกันด้วยจำนวนเงินเยอะ ๆ ถึงหลักหมื่นหลักแสนได้ แล้วแต่ว่า เจ้าของไก่เป็นนักเล่นมือใหญ่ขนาดไหน หากได้พบฝ่ายคู่ต่อสู้ที่เป็นนักเล่นไก่มือสูสีกัน ศึกช้างชนช้างจะเริ่มขึ้น เดิมพันกันด้วยเงินถึงหลักแสนไปถึงหลายแสนทีเดียว

          จบตอน ปรัชญาชีวิตจริงจากความผิดพลาดของประสบการณ์ชีวิตในอดีต ตอนที่ 4 โปรดติดตามตอนที่ 5 ได้ในเร็ว ๆ นี้



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

สวัสดีครับทุกท่าน กรณีที่ท่านติดตามชมบล็อกของผมแล้วต้องการแสดงความคิดเห็น ผมเปิดกว้างสำหรับทุกท่าน ขอความกรุณาแค่แสดงความคิดเห็นให้ตรงกับเนื้อหาของผม กรณีจะแสดงความคิดเห็นที่ไร้สาระ ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเลย ได้โปรดอย่าทำเลยครับ ผมขี้เกียจลบ ขอบคุณมากครับ

หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น