วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

เห็นแต่ฝุ่นในตาคนอื่น ซุงในตาตัวเองมองไม่เห็น ตอนสุดท้าย ตอนที่ 2

ในตอนที่แล้ว ตอน “เห็นแต่ฝุ่นในตาคนอื่น ซุงในตาตัวเองมองไม่เห็น ตอนที่ 1” ได้พูดกันถึงการกล่าวหาหญิงค้าประเวณีว่า เป็นการทำผิด สมควรถูกลงโทษด้วยการขว้างก้อนหินใส่ให้ตาย โดยผมได้วิเคราะห์เจาะลึกไปว่า การพิจารณาจะลงโทษคนในสมัยโบราณ ยังไม่สามารถพิสูจน์กันได้อย่างแน่ชัดเหมือนในปัจจุบัน ที่เอาเรื่องการตรวจพิสูจน์ การพิจารณาพยานหลักฐานมาช่วยสนับสนุน เมื่อตรวจพบพยานหลักฐานทางชีววิทยา เช่น เส้นผม เส้นขน น้ำอสุจิ ฯลฯ จากตัวของชาย หรือของหญิงที่เป็นคู่กรณี ก็จะทำให้ทราบว่า ชายกับหญิงนั้นมีการร่วมประเวณีกันจริงหรือไม่ เมื่อชายกับหญิงที่ไม่ได้อยู่กินเป็นผัวเมียกันมาร่วมประเวณีกัน ก็น่าเชื่อว่า เกิดจากการค้าประเวณี แต่การจะพิสูจน์ให้แน่ชัดได้ขนาดนั้น ก็ต้องตรวจกันถึงดีเอ็นเอ ซึ่งเป็นวิทยาการสมัยใหม่ ที่มีใช้กันเมื่อไม่นานมานี้เอง ก็คงต้อง

เห็นแต่ฝุ่นในตาคนอื่น ซุงในตาตัวเองมองไม่เห็น ตอนที่ 1

          แต่โบร่ำโบราณมา ผู้ใหญ่ หรือผู้ที่มีวัยวุฒิสูงกว่า ชอบยกเอา สุภาษิตคำพังเพย ที่ว่า "สันดอนขุดง่าย สันดานขุดยาก" มาพูดเพื่อให้ผู้รับฟังส่วนใหญ่ที่อ่อนวัยกว่า หรือคนที่อยู่แถว ๆ นั้น ที่สามารถได้ยินไปด้วย จะได้ฉุกคิด และแก้ไข พฤติกรรม ที่มักเป็นไปในทางลบ เช่น ทำงานมีหัวไม่มีท้าย ทำงานหยาบไม่ละเอียด ชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น ฯลฯ ให้แก้ไข หรือ พยายามแก้ไข พฤติกรรม ต่าง ๆ ที่ไม่ดีเหล่านั้น ในขณะที่ มันยังไม่ฝังรากลึกจนกลายเป็นสันดานไป (พฤติกรรมไม่ดี ที่ทำแรก ๆ อาจไม่รู้ว่าไม่ดี หรือ คิดว่าไม่เป็นไร ต่อเมื่อทำจนเคยชิน เหมือนเป็นเรื่องปรกตินั่นแหละ นิสัยมันกลายร่างเป็นสันดานไปแล้ว การจะมาปรับเปลี่ยน หรือ ละเลิกการกระทำตามสันดาน จะทำได้ยากมาก) 
          
          จาก ประสบการณ์ชีวิต ที่ผ่านมา 47 ฤดูฝนของผม พอจะได้เห็น นิสัย ของคนมามาก มีสิ่งที่น่าเป็นห่วงอยู่หลายอย่างหลายประการ